ว่าด้วยเรื่อง วัฒนธรรมกาแฟ จากทั่วโลก

ได้มีการศึกษาและตั้งคำถามเกี่ยวกับกาแฟที่มีผลต่อสุขภาพของมนุษย์มาอย่างยาวนาน จนถึงในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่ได้มีผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่เจ้าหนึ่งที่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ในการทำการตลาด โดยได้มีการยืนยันหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับกาแฟและคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของเรา นั่นทำให้ วัฒนธรรมกาแฟ ในสหรัฐอเมริกาช่วงปลายศตวรรษที่ 19 นั้นเฟื่องฟูและรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก

ในปัจจุบัน เราได้เห็นการศึกษามากมายที่ออกมาทั้งขัดและสนับสนุนหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ในเรื่องของผลกระทบของกาแฟต่อสุขภาพเหล่านั้น เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แต่เรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันที่จะมากล่าวกันในวันนี้ คือเรื่องของผลกระทบของกาแฟที่มีผลต่อวัฒนธรรม เรียกว่า วัฒนธรรมกาแฟ ในอดีตผู้คนดื่มกาแฟ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของรสชาติที่แสนอร่อย แต่อาจเป็นเรื่องของพิธีกรรมที่มีมาแต่โบราณก็ได้ และในหลากหลายประเทศก็มีวัฒนธรรมเหล่านี้แตกต่างกันออกไป ผมจะพามารู้จักวัฒนธรรมเหล่านั้นกันครับ

เอธิโอเปีย

Jebana

อย่างที่เรารู้กันว่า ประเทศเอธิโอเปียนี้นับได้ว่าเป็นบ้านเกิดของกาแฟโลก ในประเทศแห่งนี้ได้มีพิธีชงกาแฟอย่างเป็นทางการ ซึ่งในวันหนึ่งอาจมีการทำพิธีนี้ได้หลายต่อหลายครั้ง เป็นกิจกรรมทางสังคมหลักของหมู่บ้านนั้น ๆ โดยใช้กาแฟและน้ำเป็นส่วนผสมหลัก และก็มีการใส่เครื่องเทศอื่น ๆ เพิ่มเข้าไปด้วย ขึ้นอยู่กับแต่ละหมู่บ้านและแต่ละภูมิภาค

ในพิธีการชงกาแฟของชาวเอธิโอเปียนี้ จะใช้ผู้หญิงในการคั่วเมล็ดกาแฟดิบในกระทะ โดยมีผู้ชมเป็นแขกที่มาเยือนและคนในหมู่บ้าน ถัดจากนั้นจะทำการบดเมล็ดกาแฟด้วยครกกับสาก และจะมาเปลี่ยนเป็นการบดต่อด้วยแท่งโลหะหนักที่เรียกว่า “zenezena” ในชามโลหะที่เรียกว่า “mukecha” อีกที หลังจากบดด้วยภาชนะที่แตกต่างกันสองชนิดแล้ว จะนำกาแฟที่ได้นั้นมาต้มด้วยหม้อดินเผาที่เรียกว่า “jebena” ขั้นตอนการเติมเครื่องเทศต่าง ๆ เช่น กระวาน อบเชย หรือกานพลูที่ว่านี้ จะถูกเติมลงไปในขณะที่เมล็ดกาแฟเริ่มแตกในกระบวนการคั่ว

ซึ่งการใส่เครื่องเทศไปนั้นนับว่าเป็นกรรมวิธีที่ชาญฉลาดมาก เนื่องจากเครื่องเทศเหล่านั้นมีสรรพคุณทางยา และใช้เป็นยาแผนโบราณในสมัยก่อนด้วย อย่างอบเชย ซึ่งเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังช่วยในการบำรุงสุขภาพของหัวใจและการทำงานของสมองด้วย กานพลูบริเวณดอกตูมจะมีความหอมและมีรสเผ็ดร้อน ช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย และช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร บำรุงตับ เมื่อทำการใส่กานพลูและอบเชยลงไปในกาแฟ โดยปกติมักจะใส่ข้าวบาร์เลย์คั่ว ขนมปัง Amasha ถั่วลิสง หรือข้าวโพดคั่วลงไปด้วย

พิธีกรรมการชงกาแฟของชาวเอธิโอเปียที่จัดขึ้นในหมู่บ้านนี้ ส่วนมากจะจัดขึ้นเพื่อจุดประสงค์เกี่ยวกับการพบปะสังสรรค์ และมีความเชื่อว่า ในขณะชงกาแฟ ควรจะเป็นไปอย่างราบรื่น เหมือนกับบทสนทนาที่ควรจะเป็นไปอย่างราบรื่นและยอดเยี่ยมกันของคนในหมู่บ้าน

อินเดีย

Turmeric-Latte-or-Haldi-Doodh

ประเทศอินเดียเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งประเทศนี้ได้มีตำนานเรื่องเล่า เกี่ยวกับกาแฟ ย้อนไปเมื่อ 400 ปีก่อน มีนักบุญชื่อ Baba Budan ได้นำถั่ววิเศษที่ได้มาจากประเทศเยเมนมาปลูกบนเนินเขา Chadragiri ในรัฐ Karnataka ซึ่งก็คือกาแฟนี่เอง โดยจะทำการปลูกถั่ววิเศษหรือกาแฟนี้ไปพร้อมกับเครื่องเทศ ซึ่งเป็นสินค้าหลักของประเทศอินเดียด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงบอกได้ว่า กาแฟและเครื่องเทศต่าง ๆ นับว่าเป็นสองวัตถุดิบที่มีความสนิทชิดเชื้อ และมีความเข้ากันในประเทศอินเดียมาก ตามสวนหรือไร่กาแฟหลายแห่งในประเทศอินเดียก็จะทำการปลุกเครื่องเทศและกาแฟแซมไปด้วยกันทั้งนั้น

ในวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของอินเดีย มีเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเหมือนกาแฟ แตกปราศจากกาแฟ เครื่องดื่มชนิดนี้เรียกว่า “turmeric milk” หรือ “haldi doodh” หรือ “นมขมิ้น” และถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “golden milk” ซึ่งเครื่องดื่มชนิดนี้ได้มีการแพร่หลายอย่างมากทั่วประเทศอินเดีย โดยใช้ในพิธีกรรมสำคัญต่าง ๆ มากมาย เครื่องดื่มชนิดนี้วัตถุดิบจะประกอบด้วยกะทิ ขมิ้น ขิง น้ำผึ้ง น้ำมะพร้าว พริกไทย และน้ำเปล่า โดยจะใส่ส่วนผสมทั้งหมดและนำไปอุ่นเล็กน้อย ก่อนที่จะนำมาปั่นรวมกัน เมื่อปั่นแล้วให้ทิ้งไว้เป็นเวลา 10 นาที โดยพระเอกของเครื่องดื่มชนิดนี้คือขมิ้น ซึ่งในตอนนั้น เป็นเครื่องเทศที่เชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้ทุกอย่าง เชื่อกันว่าขมิ้นมีประโยชน์ในการรักษาไข้หวัด มีฤทธิ์เป็นยาแก้อักเสบ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังเป็นยาอายุวัฒนะอีกด้วย ในบางพื้นที่ได้มีการบริโภคขมิ้นในตอนกลางคืน เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับด้วย

เหตุผลที่ต้องกล่าวถึงเครื่องดื่มชนิดนี้ เพราะเครื่องดื่มชนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นกาแฟของชาวอินเดียในสมัยนั้นเลยทีเดียว อีกทั้งในยุคปัจจุบันนี้ เครื่องดื่มชนิดนี้ได้กลายมาเป็นเทรนด์สุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมากในฝั่งตะวันตก และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในร้านกาแฟ และร้านอาหารเพื่อสุขภาพหลายต่อหลายแห่งอีกด้วย

คาบสมุทรอาหรับ

qahwa

ในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้น กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่ลึกลับ โดยผู้คนที่นับถือลัทธิ Sufi ทั่วครับสมุทรอาหรับได้ใช้เครื่องดื่มชนิดนี้ในการเพิ่มสมาธิ และสร้างความสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณกับพระเจ้าอย่างลึกซึ้ง ดังนั้นชาวเยเมนจึงเรียกกาแฟโดยชื่อภาษาอารบิกที่ว่า “qahwa”

เครื่องดื่มทางจิตวิญญาณที่ช่วยในการจุดประกายความคิดและปัญญาของเหล่าผู้แสวงบุญนี้ จะใช้น้ำ กาแฟ และกระวานเป็นส่วนผสมหลัก เชื่อกันว่ากระวานช่วยในการย่อยอาหารและขับของเสียในร่างกาย การทำกาแฟที่ชื่อว่า qahwa นั้น จะทำโดยการใส่กาแฟลงในน้ำและปล่อยให้น้ำเดือดเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นจะทำการเติมกระวานบดและหญ้าฝรั่นลงไปเล็กน้อยเพื่อปรุงรสกาแฟให้มีความอร่อยขึ้น

ทุกวันนี้ เราก็จะได้ยินชื่อกาแฟสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมและมีความสำคัญมากที่สุดในโลก นั่นคือสายพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งชื่อนี้ได้มาจากชื่อของภูมิภาคนี้นั่นเอง กาแฟอาราบิก้าจะเติบโตในบริเวณที่ราบสูง ก่อนที่จะเผยแพร่เข้าไปในประเทศอียิปต์ และในที่สุดก็ได้กลายมาเป็นเครื่องดื่มที่มีความสำคัญและโดดเด่นในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17

แต่ละวัฒนธรรมหรือแต่ละภูมิภาคก็มีประเพณีการดื่มกาแฟ และความเชื่อเกี่ยวกับกาแฟแตกต่างกันออกไป รวมถึงกรรมวิธีในการปรุงกาแฟเหล่านั้นด้วย ไม่เลวเหมือนกันถ้าเราจะลองดื่มกาแฟแบบคนโบราณดู ไม่แน่อาจจะอร่อยและเพิ่มสีสันใหม่ให้กับกาแฟของเราก็เป็นได้