แนวคิด Zero Waste กับการกำจัดขยะในร้านกาแฟ

เรื่องเกี่ยวกับความยั่งยืน ตลอดห่วงโซ่การผลิตกาแฟนับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงมีโอกาสได้เห็นผู้คนมากมายในอุตสาหกรรม มีแนวคิดต่าง ๆ ที่มุ่งเน้นไปที่การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตกาแฟเหล่านี้ ปริมาณของเสียหรือขยะที่เกิดจากร้านกาแฟ ก็นับว่าเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมกาแฟเช่นเดียวกัน

และเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ธุรกิจกาแฟมากมายหลายแห่ง จึงมีการนำแนวทางการกำจัดขยะแบบยั่งยืนนำมาใช้งาน ซึ่งแนวทางเหล่านี้เป็นแนวทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วก็นับว่าได้ผลอย่างมากมายมหาศาล นอกเหนือจากประโยชน์ในด้านของสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังมีประโยชน์ด้านอื่นตามมาด้วยเช่นเดียวกัน

Coffee Shop Rush Hour

หนึ่งในแนวคิดที่ถูกนำมาใช้ในเรื่องของการกำจัดขยะในร้านกาแฟ คือแนวคิด Zero Waste สิ่งนี้ถูกใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แท้จริงแล้วสิ่งนี้คืออะไร ในทางปฏิบัติสามารถนำมาประยุกต์หรือปรับใช้ได้จริงหรือไม่ วันนี้เราจะไปคุยและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องนี้กัน

Zero Waste หมายถึงอะไร

มีผู้บริโภคอยู่มากมาย ที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในอุตสาหกรรมกาแฟ แล้วจะยิ่งมีเพิ่มมากยิ่งขึ้นในอนาคตอันใกล้ด้วย ด้วยเหตุนี้เราจึงอาจเห็นการพูดถึงเรื่องของแนวคิดขยะเป็นศูนย์ เป็นแนวคิดที่มีการใช้งานและพูดถึงกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น แล้วมันหมายความว่าอะไร

โดยพื้นฐานแล้ว แนวคิด Zero Waste หรือขยะเป็นศูนย์ดังกล่าวนี้ ก็คือการกำจัดขยะหรือของเสีย ผ่านการนำของเหล่านี้มาใช้ซ้ำหรือการนำมารีไซเคิล ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ หรือบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ตามแนวทางของ Zero Waste International Alience การนำของเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ สามารถทำได้ทั้งการนำมารียูส ดัดแปลงใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล โดยที่การนำมาใช้ ห้ามทำการเผาหรือทิ้งขยะเหล่านี้ลงสู่พื้นดิน น้ำ และทางอากาศโดยเด็ดขาด คือจะต้องไม่คุกคามสิ่งแวดล้อมหรือสุขภาพของมนุษย์

ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายสุดท้ายของแนวทางการปฏิบัติขยะเป็นศูนย์ดังกล่าว ก็คือการป้องกันไม่ให้เกิดของเสียเลยแม้แต่น้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความท้าทายและแทบจะเป็นไปไม่ได้หากเราดูกันในเรื่องของสถิติ เมื่อเรานำมาพิจารณา ขยะพลาสติกกว่า 91 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดที่เคยผลิตมานั้น ไม่เคยได้รับการรีไซเคิลเลย ท้ายที่สุดแล้วมันจะจบลงที่หลุมฝังกลบ และถูกนำไปทิ้งลงในมหาสมุทรทั่วโลกแทน

คำว่าขยะเป็นศูนย์นี้ ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครเป็นคนพูดถึงคนแรก หรือเกิดขึ้นในยุคใด แต่ก็มีรายงานถึงต้นกำเนิด พี่พอจะเป็นไปได้มากที่สุด ซึ่งเราจำเป็นจะต้องย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ 1970 โดยนักเคมีที่ชื่อว่า Paul Palmer ใช้คำนี้ครั้งแรก ในขณะที่มีการประชุมหารือเกี่ยวกับวิธีการนำสารเคมีที่เป็นของเสีย ถูกเรียกว่าของเสียที่สะอาด ซึ่งถูกผลิตขึ้นใน Silicon Valley นำของเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ แทนที่จะใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งไป ซึ่งต่อมา Paul Palmer ได้กลายมาเป็นผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งองค์กร Zero Waste Institute ในที่สุด

ส่วนการถูกพูดถึงในสหรัฐอเมริกา ครั้งแรกเกิดขึ้นในปี 1997 สมาคมฟื้นฟูทรัพยากรของแคลิฟอร์เนียได้ประกาศเป้าหมายขยะเป็นศูนย์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวาระการประชุมสำหรับสหัสวรรษใหม่ ซึ่งถือเป็นการนำหลักปฏิบัติในการจัดการขยะ มาใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา

และแม้ว่าจะไม่มีคำจำกัดความ หรือการรับรองใดอย่างเป็นทางการ แต่ธุรกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะธุรกิจบริการ ที่เริ่มนำแนวคิดดังกล่าวเหล่านี้มาใช้ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก การเคลื่อนไหวนี้ได้รับแรงผลักดันจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะต้องการลดหรือกำจัดระดับของเสียหรือขยะที่ผลิตจากธุรกิจต่าง ๆ ซึ่งในที่นี้เราจะคุยกันเรื่องของธุรกิจกาแฟ ที่สร้างขยะมากมายยกตัวอย่างเช่นแก้วกาแฟแบบใช้ครั้งเดียว ฝาปิด บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ รวมถึงหลอดและบรรดากระดาษเช็ดปาก เหล่านี้ก็ถือเป็นขยะเช่นเดียวกัน

coffee shop interior

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะดำเนินธุรกิจร้านกาแฟแบบไร้ขยะ

คำถามต่อมาก็คือ สำหรับร้านกาแฟ เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปราศจากขยะหรือไม่สร้างขยะให้เกิดขึ้นเลย 100 เปอร์เซ็นต์ ในทางปฏิบัตินั้น สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากจนถึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย โดยธรรมดาแล้วร้านกาแฟมักจะตั้งขยะเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่แก้วกาแฟ หรือบรรจุภัณฑ์อื่นไปจนถึงบรรดานมที่เหลือและกากกาแฟด้วย นั่นยังไม่รวมบรรดาถุงพลาสติก หรือพลาสติกอีกมากมายหลากหลายรูปแบบภายในร้าน 

หลายคนจึงมองว่าแนวคิดการปราศจากขยะในร้านกาแฟ อาจจะเปลี่ยนไปที่การมุ่งเน้น ในการสร้างขยะให้น้อยที่สุด และกระบวนการกำจัดขยะหลังจากนั้น ร้านกาแฟควรให้ความสำคัญกับการใช้ผลิตภัณฑ์ แล้ววัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ แทนที่จะเป็นบรรดาบรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง ดังนั้นในแง่ของร้านกาแฟแล้ว คำว่าขยะเป็นศูนย์ อาจจะไม่ได้หมายถึงการปราศจากขยะหรือของเสียเลย แต่ก็คือการลดของเสียหรือขยะให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือก็คือการพยายามหลีกเลี่ยงการสร้างขยะที่ไม่จำเป็น

แนวทางการปฏิบัติเพื่อให้มีขยะเกิดขึ้นน้อยที่สุดก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลาย มีตั้งแต่การใช้แนวทางการปฏิบัติภายในร้าน อย่างการไม่ติดโปสเตอร์ หรือแนะนำสินค้าไว้เต็มร้านอย่างเกินจำเป็น ไปจนถึงแนวทางการปฏิบัตินอกร้าน โดยอาจจะเป็นการสื่อสารกับ supplier ให้มีการใช้ซ้ำ และมีการส่งคืนบรรจุภัณฑ์หากเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังอาจใช้สิ่งของที่สามารถย่อยสลายหรือนำมารีไซเคิลได้ อาจลดปริมาณขยะได้ในระดับหนึ่ง

แต่ในร้านกาแฟแต่ละร้านนั้น แนวทางการกำจัดของเสียหรือกำจัดขยะอาจมีความแตกต่างกันออกไป ขอบเขตแนวทางการปฏิบัติที่จะทำได้ก็ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของสถานที่ตั้งของร้าน รายการเมนูเครื่องดื่มและอาหารภายในร้าน การให้ความร่วมมือกันของ supplier รายอื่น หรืออาจรวมถึงจำนวนพนักงานที่อยู่ภายในร้านด้วย

การชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย

ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าแนวคิดเรื่องของขยะเป็นศูนย์ จะเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจและดึงดูดใจผู้บริโภคบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประชากรหรือผู้บริโภคที่มีอายุน้อย แต่ร้านกาแฟไม่ใช่ทุกแห่งที่จะสามารถนำเทคนิคหรือแนวคิดนี้มาปรับใช้ได้ ทั้งนี้ก็ด้วยเหตุผลที่มีความแตกต่างกันหลากหลายประการ

สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ และมีการลงทุนที่มากพอเพื่อให้ร้านกาแฟไม่สร้างขยะมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นอาจรวมถึงการที่จะต้องฝึกอบรมหรือการเรียนพนักงาน การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์บางอย่าง ด้วยทางเลือกที่อาจจะเอื้อต่อความยั่งยืนมากกว่า การต้องแจ้งให้ลูกค้าทราบเกี่ยวกับระบบใหม่ ยังการใช้ถ้วยที่สามารถใช้ซ้ำได้เป็นต้น

เจ้าของธุรกิจบางคนอาจคิดว่านี่เป็นการลงทุนที่มีราคาแพง แต่คำกล่าวนี้ก็ไม่จริงเสมอไป ถึงแม้ว่าสิ่งนี้จะค่อนข้างมีความท้าทาย แต่ก็นับว่ามีประโยชน์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน ในการทำให้มีปริมาณขยะน้อยที่สุดในธุรกิจกาแฟ

Coffee Shop in the Bar

และเพื่อให้ประสบความสำเร็จในแนวทางการปฏิบัติและการนำแนวคิดขยะเป็นศูนย์มาใช้งาน ไม่ใช่แค่ทางร้านค้าเท่านั้น แต่ลูกค้ายังเป็นส่วนสำคัญ และเป็นส่วนช่วยในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ด้วย ซึ่งโชคดีที่ลูกค้ายุคใหม่ส่วนมาก ก็ค่อนข้างที่จะให้ความร่วมมือกับแนวคิดนี้เป็นอย่างดี เพราะเห็นส่วนในเรื่องของความยั่งยืนว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ

ในทางกลับกัน ยังเคยมีการศึกษาวิจัย ที่กล่าวถึงเรื่องของแนวทางการบริโภคกาแฟอย่างยั่งยืน หรือการนำแนวคิดนี้มาใช้ในร้านกาแฟ ในหลายครั้งมันกลับที่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านกาแฟ และช่วยในการดึงดูดลูกค้าเข้ามาในร้านกาแฟได้ด้วยเช่นเดียวกัน เคยมีการสำรวจในสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการซื้อของผู้บริโภค พบว่ามีมากกว่าครึ่งของผู้บริโภค ให้ความสนใจในธุรกิจอาหารหรือเครื่องดื่มที่นำแนวทางขยะเป็นศูนย์มาใช้งาน

นอกจากนี้ยังมีผู้คนมากกว่า 37 เปอร์เซ็นต์ที่สนใจในผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้วัสดุรีไซเคิลมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีกว่า 43 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภค ที่ต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนนอกจากลูกค้าแล้ว พนักงานในร้านกาแฟยังต้องสนับสนุนแนวทางการปฏิบัตินี้ด้วย

การนำแนวทางปฏิบัติขยะเป็นศูนย์มาใช้ในร้านกาแฟ

ไม่ว่าจะเริ่มปฏิบัติเรื่องไหนหรือสิ่งใดก็ตาม การศึกษาและค้นหาข้อมูลล่วงหน้าถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด การที่จะเริ่มแนวทางปฏิบัติกับการนำแนวคิดขยะเป็นศูนย์มาใช้ในธุรกิจกาแฟก็เช่นเดียวกัน 

โดยส่วนมากแล้ว ขยะที่เกิดจากร้านกาแฟกว่า 90-95 เปอร์เซ็นต์ ท้ายที่สุดแล้วจะกลายเป็นขยะที่จำเป็นจะต้องฝังกลบ ขยะเหล่านี้อาจจะนำมารีไซเคิลหรือใช้ซ้ำได้ นั่นรวมไปถึงกากกาแฟที่ใช้แล้ว กระดาษที่ใช้ในร้าน ถุงพลาสติก หรือแม้แต่อาหารที่เหลือก็ยังนำมาใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ขยะประเภทขวดนม หรือกล่องนม เหล่านี้ก็นำมารีไซเคิลได้เช่นเดียวกัน การพยายามลดปริมาณขยะที่จะถูกฝังกลบให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้เป็นสิ่งที่จำเป็น

มี supplier ที่ขายบรรจุภัณฑ์จำนวนมาก จะมีการติดป้ายกำกับผลิตภัณฑ์ว่าสามารถที่จะย่อยสลายได้หรือไม่ สิ่งนี้ยังค่อนข้างที่จะช่วยร้านค้าได้มาก และขยะที่จะนำมากำจัด ก็ยังจะต้องได้รับการกำจัดอย่างเหมาะสมด้วย ถึงแม้ว่าวัสดุบางอย่างจะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ แต่ก็อาจจะต้องใช้เวลาหลายร้อยปี หรืออาจจะปล่อยแก๊สที่เป็นอันตรายออกมาได้ด้วย นี่เป็นเหตุผลที่จำเป็นจะต้องกำจัดขยะหรือของเสียอย่างถูกต้อง

และที่สำคัญเลยก็คือ ไม่ว่าเราจะใช้แนวทางไหนกับร้านกาแฟ การสื่อสารกับลูกค้าถือเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รู้ ถึงแนวทางและความคาดหวังของทางร้าน และการปฏิบัติต่อไปหลังจากนี้ ยกตัวอย่างเช่นอาจมีการบอกให้ลูกค้านำภาชนะมาเอง หากต้องการที่จะซื้อเมล็ดกาแฟ หรือบางร้านอาจมีการแจ้งกับลูกค้าถึงวิธีหรือระบบที่ใช้ในการกำจัดขยะ

ถึงแม้ว่า การดำเนินการในร้านกาแฟโดยการนำแนวคิดขยะเป็นศูนย์มาใช้งานนั้น จะเรียกได้ว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลย แต่อย่างน้อยการทำแบบนี้ก็อาจจะทำให้ การสร้างขยะเกิดขึ้นน้อยที่สุด และแนวทางนี้ก็ยังถือเป็นแนวทางที่สามารถทำได้ และเอื้อต่อความยั่งยืนในธุรกิจกาแฟด้วยเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้ว เราเห็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกาแฟมากมายใส่ใจในเรื่องของความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งเหล่านี้ถึงแม้จะดูเป็นสิ่งเล็กๆ แต่กลับสร้างผลกระทบยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อเลย