กาแฟโคลอมเบีย เหตุใดจึงมีชื่อเสียงระดับโลก

หากเราจะกล่าวถึง กาแฟโคลอมเบีย เรามักจะนึกถึงกาแฟคุณภาพเยี่ยม ชื่อว่าผู้ที่ชอบในการดื่มกาแฟน่าจะเคยดื่มกาแฟโคลอมเบียกันมาแล้วบ้าง ไปที่โคลอมเบียนับเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากประเทศบราซิลและประเทศเวียดนาม ซึ่งลำดับที่ว่านี้ไม่ได้เปลี่ยนมาหลายปีแล้ว หากเราถามถึงประเทศผู้ผลิตกาแฟยอดนิยม ประเทศโคลอมเบียก็น่าจะเป็นประเทศแรกๆ ที่หลายคนนึกถึง

ถึงแม้ว่าจะมีภูมิภาคที่ผลิตกาแฟอยู่หลายภูมิภาค หรือประเทศที่ผลิตกาแฟอยู่หลากหลายประเทศในแถบนี้ แต่ กาแฟโคลอมเบีย ก็นับว่าเป็นหนึ่งในกาแฟยอดเยี่ยม และได้รับการแพร่กระจายไปทั่วโลก ผู้คนให้ความสนใจ มีผู้ปลูกกาแฟและผู้ผลิตกาแฟ รวมอยู่ด้วยกันมากมายในโคลอมเบียมานานกว่าหลายทศวรรษแล้ว

Coffee Terior

ดังนั้นในวันนี้ เราจะไปทำความรู้จักกาแฟจากประเทศโคลอมเบียกันให้มากขึ้น รวมถึงวิวัฒนาการกาแฟของที่นี่ มีที่มาที่ไปอย่างไร และเหตุใดกาแฟโคลอมเบียจึงกลายเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลกจนกระทั่งในปัจจุบันนี้

ประวัติโดยย่อของ กาแฟโคลอมเบีย

แม้ว่าประเทศบราซิลและประเทศเวียดนาม จะเป็นประเทศครองแชมป์อันดับ 1 และ 2 ในด้านการผลิตกาแฟ แต่ถึงอย่างนั้นประเทศโคลอมเบียก็ตามมาติดๆ เป็นอันดับ 3 ในด้านเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ แต่หากเรานับเฉพาะอาราบิก้า โคลอมเบียถือเป็นอันดับ 2 เลยทีเดียว โคลอมเบียเป็นที่ยอมรับในการผลิตกาแฟอาราบิก้าชั้นเยี่ยม มีการเพาะปลูกกาแฟมาตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 18 แล้ว

มีหลายทฤษฎีที่ว่า ต้นกาแฟนั้นเดินทางมาถึงประเทศโคลอมเบียได้อย่างไร ทฤษฎีหนึ่งที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง คือทฤษฎีที่ว่ากาแฟเดินทางเข้ามาสู่ประเทศโคลอมเบีย ผ่านมิชชันนารีผู้สอนศาสนาชาวดัตช์ นิกาย Jesuit ในช่วงศตวรรษที่ 18 ซึ่งกาแฟได้รับการปลูกครั้งแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในส่วนนั้นของประเทศเต็มไปด้วยภูเขา จากนั้นการปลูกกาแฟจึงได้แพร่กระจายไปทั่วประเทศ โดยฟาร์มของครอบครัวเกษตรกรรายย่อยทั้งหลาย ได้นำส่งต่อและแพร่กระจายไป กาแฟจึงนับเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศโคลอมเบียนั่นเอง

ช่วงต้นของทศวรรษที่ 1800 นี้เอง ที่ประเทศได้เริ่มทำการส่งออกกาแฟในเชิงพาณิชย์ จนกระทั่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ประเทศโคลอมเบียก็ได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดในโลก

สภาพภูมิอากาศของประเทศโคลอมเบีย

กาแฟอาราบิก้านั้นปลูกยากกว่ากาแฟโรบัสต้ามาก อาราบิก้ามีความไวต่อสภาพอากาศอย่างเหลือเชื่อ และการปลูกอาราบิก้าได้เราจะต้องปลูกในระดับความสูงที่เหมาะสม อยู่ในช่วงอุณหภูมิที่คงที่ ไม่ร้อนหรือไม่เย็นจนเกินไป

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศโคลอมเบีย เหมาะสมต่อการปลูกอาราบิก้า เนื่องจากธรรมชาติของประเทศเหมาะสมที่สุดในการเพาะปลูกต้นอารบิก้านั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบนิเวศ ระดับความสูงที่เหมาะสม รวมถึงสภาพอากาศในประเทศโคลอมเบีย มีสภาพอากาศที่เรียกว่า microclimate อยู่มากมาย นั่นควบคู่ไปกับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี สิ่งนี้ทำให้โคลอมเบียสามารถผลิตกาแฟอาราบิก้าได้อย่างสม่ำเสมอและตลอดทั้งปี

แนวทางการทำฟาร์มที่ดี

แต่แค่เรื่องของสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย แค่นี้ไม่เพียงพอ แนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี มีความเฉพาะเจาะจงก็เป็นกุญแจสำคัญในการผลิตอาราบิก้าคุณภาพสูงให้ประสบความสำเร็จได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพาะปลูกกาแฟพิเศษ ผู้ผลิตทั่วโลกมีกระบวนการและตัวแปรมากมายที่จะต้องพิจารณา นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้น ยกตัวอย่างเช่นเรื่องของวิธีการในการเก็บเกี่ยว และการนำกาแฟไปตากให้แห้งเป็นต้น รวมถึงเรื่องของการจัดการดินอย่างพิถีพิถัน และการตัดแต่งกิ่งของกาแฟด้วยเหมือนกัน

ในโคลอมเบียเองมีการลงทุนเกี่ยวกับกาแฟ มีการผสมผสานระหว่างการวิจัยและการพัฒนา บวกกับความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคแก่ผู้ปลูกกาแฟ ทำให้ผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามแนวทางทางการเกษตรที่ดีที่สุด รวมถึงแนวทางทางการผลิตที่ดีที่สุดด้วย

ยกตัวอย่างเช่น มีการใช้พันธุ์กาแฟที่ต้านทานต่อโรคสนิมในใบ การปลูกกาแฟในช่วงเวลาที่เหมาะสม การเพิ่มความหนาแน่นของเมล็ดกาแฟ การเก็บรักษาต้นกล้าที่มีอายุน้อย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ได้กาแฟที่มีผลผลิตที่มีคุณภาพ รวมถึงมีราคาดีด้วย

Ruiru 11 Cherry

ไม่เพียงตื่นมีการลงทุนด้านการเกษตรเพียงเท่านั้น ยังมีการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และมีความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคอื่นๆ ตลอดจนมีการช่วยเหลือทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งของทางภาครัฐและเอกชนเอง

การผสมผสานระหว่างเรื่องของสภาพภูมิอากาศที่ยอดเยี่ยม และการลงทุนเกี่ยวกับการเกษตรและวิธีการทางกาแฟทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพลอย่างมากต่อชื่อเสียงของกาแฟโคลอมเบีย ในฐานะกาแฟคุณภาพสูงมานาน ชื่อเสียงของประเทศโคลอมเบียในฐานะแหล่งปลูกกาแฟซึ่งเป็นแหล่งปลูกที่ยอดเยี่ยม

La Federación Nacional de Cafeteros

ช่วงประมาณต้นศตวรรษที่ 20 การผลิตกาแฟส่วนใหญ่ในประเทศโคลอมเบียนั้น อยู่ในมือของผู้ผลิตรายใหญ่เพียงไม่กี่รายเท่านั้น คนงานที่ทำงานในไร่กาแฟตอนนั้น ส่วนมากก็จะประกอบไปด้วยชาวนา ชาวไร่ เกษตรกร ซึ่งเหล่านี้เป็นชนพื้นเมืองและอดีตธาตุ

ในปี 1927 กลุ่มผู้ผลิตกาแฟที่มีชื่อเสียงจากภูมิภาค Zona Cafetera ได้ทำการรวมตัวกันเพื่อ Federación Nacional de Cafeteros de Colombia (FNC) วัตถุประสงค์ขององค์กรนี้ คือเพื่อเป็นตัวแทนของเกษตรกรในการส่งเสริมและต่อรองราคาอย่างยุติธรรม สำหรับการขายกาแฟไปสู่ทั่วโลก

แต่แล้ว ก็เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ทั่วโลก แน่นอนว่าผลกระทบของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่นี้ ได้แผ่ขยายมาถึงอุตสาหกรรมกาแฟด้วยเช่นกัน ในช่วงปลายทศวรรษ 1920-1930 ราคากาแฟทั่วโลกดิ่งลงเหว นั่นทำให้ไร่กาแฟในโคลอมเบียหลายแห่งล้มละลาย

ในความพยายามที่จะต้องจัดการกับความผันผวนทางด้านราคา รวมถึงในด้านของการผลิตกาแฟ รัฐบาลโคลอมเบียจึงได้ทำการซื้อฟาร์มกาแฟขนาดใหญ่ จากนั้นทำการแบ่งออก และขายให้กับคนงานที่สามารถปลูกพืชอื่นควบคู่ไปกับกาแฟได้

ตั้งแต่นั้นมา FNC ได้พยายามอย่างต่อเนื่อง ในนามของผู้ผลิตกาแฟโคลอมเบีย เพื่อยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะแหล่งปลูกกาแฟ ให้เข้าสู่เวทีระดับโลก ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในปี 1961 องค์กร FNC นี้เอง ได้ทำการสร้างตราประทับ และติดอยู่บนผลิตภัณฑ์กาแฟจากประเทศโคลอมเบีย “100% Colombian coffee” ด้วยตราประทับดังกล่าวนี้ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ยอดเยี่ยม ผู้ผลิตกาแฟสามารถที่จะใช้ และนำกาแฟของพวกเขาไปวางขายในตลาดโลกได้

นี่ถือเป็นตัวอย่างที่ดี ในการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก ทำให้ผู้บริโภคทั่วโลกสามารถระบุถึงกาแฟโคลอมเบียได้อย่างง่ายดายที่สุด บนชั้นวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วโลก ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งนี้ช่วยดันราคากาแฟโคลอมเบียพรีเมี่ยม จนกระทั่งในปัจจุบันนี้ได้ด้วย

ทำความรู้จัก Juan Valdez

นอกเหนือจากตราสัญลักษณ์ “100% Colombian coffee” ความสำเร็จส่วนใหญ่ของกาแฟโคลอมเบียในเวทีโลกนั้น ยังมาจากแคมเปญของชายชื่อ Juan Valdez ด้วย

แคมเปญของเขาได้รับการเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี 1958 Juan Valdez เป็นเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟคนสำคัญของประเทศโคลอมเบีย ที่ปรากฏตัวครั้งแรกในโฆษณาของ FNC เป็นการเผยให้เห็นถึงกาแฟโคลอมเบีย แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างจากกาแฟของประเทศอื่นๆ และมีศักยภาพในการแข่งขันบนเวทีระดับโลก

แคมเปญดังกล่าวนี้ได้ผล กาแฟโคลอมเบียกลายเป็นกาแฟที่อยู่ในใจของนักดื่มกาแฟทั่วโลก มีการเผยให้เห็นถึงการผลิตกาแฟ การปลูกกาแฟ รวมถึงแนวทางทางกาแฟอื่นๆ ของโคลอมเบียด้วย กาแฟโคลอมเบียกลายเป็นที่นิยมและประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภคชาวอเมริกัน

แคมเปญที่ว่าดังกล่าวนี้ เป็นเหมือนกับสารคดี ที่นำโดย Juan Valdez มีภาพของการเกษตร การปลูกกาแฟ และการแสดงออกถึงความพยายามของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ กลับกันได้มาซึ่งผลผลิตคุณภาพสูง

หลังจากผ่านไปเกือบ 45 ปี แบรนด์ของ Juan Valdez ได้รับการยอมรับทั่วโลก จนองค์กร FNC ใช้แบรนด์นี้ในการเปิดตัวร้านกาแฟในเครือ ในปี 2002 ทาง FNC ได้ทำการเปิดร้านกาแฟ Juan Valdez อย่างเป็นทางการแห่งแรก จนกระทั่งหลายปีผ่านมา ปัจจุบัน Juan Valdez  มีสาขามากกว่า เกือบ 400 แห่งทั่วโลก

กาแฟโคลอมเบียในปัจจุบัน

แม้ว่าสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น จะเป็นสิ่งที่นำประเทศโคลอมเบียมาสู่จุดที่อยู่ในปัจจุบัน แต่คำถามคือในทุกวันนี้ การรับรู้เกี่ยวกับกาแฟโคลอมเบียในตลาดโลกเป็นอย่างไร

ปัจจุบันกาแฟโคลอมเบีย ได้รับการยอมรับจากอุตสาหกรรมกาแฟว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขายออกได้ง่าย เนื่องจากความคุ้นเคยในด้านของคุณภาพ และความพรีเมี่ยมที่สื่อถึงผู้บริโภคอยู่แล้ว

สำหรับบรรดาโรงคั่วกาแฟทั้งหลาย กาแฟจากโคลอมเบียนับว่าเป็นกาแฟคุณภาพสูงโดยค่าเฉลี่ย อีกทั้งยังมีการวางขาย และหาซื้อได้ตลอดทั้งปีด้วย ปัจจุบันกาแฟโคลอมเบีย สามารถที่จะขายตัวเองได้ ผู้ขายไม่จำเป็นที่จะต้องโปรโมทอะไรมากมาย แน่นอนว่าสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากที่สุด คือเรื่องของคุณภาพที่มีความสม่ำเสมอ ซึ่งกาแฟโคลอมเบียสามารถให้สิ่งนี้ได้

F1 Hybrid Coffee

การผลิตกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟพิเศษที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ จำเป็นที่จะต้องอาศัยปัจจัยมากมายหลากหลายประการร่วมกัน ตั้งแต่เรื่องของสภาพอากาศที่เหมาะสม รวมไปถึงแนวทางการปฏิบัติทางการเกษตรที่ยอดเยี่ยม นอกจากนี้ยังจำเป็นที่จะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม รวมถึงการช่วยเหลือทางด้านเทคนิคอื่นๆ การมีส่วนร่วมจากทางภาครัฐ และภาคเอกชนด้วย ตลอดตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 20-21 ประเทศโคลอมเบียมีสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ขาดไปเลย และสิ่งนี้เองเป็นสิ่งพิสูจน์ว่ากาแฟของโคลอมเบียเป็นกาแฟที่ยอดเยี่ยมจนกระทั่งในปัจจุบัน

แต่เราก็อาจที่จะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า ความสำเร็จของประเทศโคลอมเบียในฐานะประเทศผู้ผลิตกาแฟระดับโลก อย่างน้อยก็ในช่วงประมาณ 100 ปีที่ผ่านมา ขึ้นอยู่กับองค์กร FNC และแคมเปญทางการตลาดขององค์กรนี้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Juan Valdez มีการสร้างตราประทับ ซึ่งเปรียบเสมือนซิกเนเจอร์ของกาแฟโคลอมเบีย แต่ไม่ว่าอย่างไรในอนาคตเราก็ต้องมาดูกันต่อ กับตลาดกาแฟสมัยใหม่ ที่ทุกอย่างสามารถเปลี่ยนไปได้เสมอ ว่ากาแฟโคลอมเบียนั้นจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคต