เกชา (Gesha) หรือที่หลายคนเรียกกันว่า เกอิชา (Geisha) เป็นชื่อเรียกของสายพันธุ์กาแฟที่มีต้นกำเนิดมาจากป่าที่มีชื่อว่า Gori Gesha ในประเทศเอธิโอเปีย ซึ่งในปัจจุบันกาแฟสายพันธุ์นี้ได้ถูกนำไปปลูกไม่ใช่แค่ในแอฟริกา แต่ได้ไปสู่ทั่วโลก ทั้งแอฟริกา เอเชีย อเมริกา และอีกหลายที่มาก มาในครั้งนี้ Redwood จะพาคุณไปรู้จักกาแฟตัวนี้ให้มากขึ้นกันครับ

กาแฟนี้เองเป็นกาแฟที่มีชื่อเสียงอันโด่งดังในเรื่องของรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งกลิ่นของดอกไม้และกลิ่นหอมหวานเป็นพิเศษ ราคาที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ยังมีความต้องการบริโภคที่สูงลิ่วอีกด้วย
กาแฟสายพันธุ์นี้ได้เดินทางจากเอธิโอเปียมาสู่อเมริกากลาง ครอบครัว Peterson ครอบครัวเกษตรกรชาวปานามาได้ส่งกาแฟสายพันธุ์นี้เข้าประกวดกาแฟ Best of Panama ในปี 2005 และกาแฟสายพันธุ์นี้ก็ชนะเลิศ ราคาของกาแฟตัวนี้ก็ถีบตัวสูงขึ้น อยู่ที่กิโลกรัมละ 25000 บาท (ขายได้สูงสุด) ในปี 2017 กาแฟ Gesha ก็ได้สร้างสถิติใหม่ โดยทำราคาอยู่ที่ 42800 บาทต่อ 1 กิโลกรัม
เกชา หรือ เกอิชา
หลายคนมักจะสับสนกับสองชื่อนี้ สรุปแล้ว มันต้องเป็น “เกชา” หรือ “เกอิชา” กันแน่ คำว่า “Geisha” นั้น ได้มีการบันทึกคำนี้ไว้ในจดหมายจากสถานกงศุลอังกฤษในเอธิโอเปียตั้งแต่ปี 1936 กล่าวถึงการไปสำรวจที่ “พื้นที่ปลูก(กาแฟ) Geisha” โดยได้เขียนไว้เพื่อใช้ในการศึกษา แต่คำว่า “เกชา” นั้น เป็นคำทับศัพท์มาจากภาษาท้องถิ่น ซึ่งเป็นชื่อของภูมิภาคนั้น (เรียกว่า ภาษา Kafa)
งั้นเอาเป็นอย่างนี้ เนื่องจากทั้งสองชื่อเป็นชื่อของสายพันธุ์กาแฟตัวเดียวกัน โดยปกติแล้ว กาแฟสายพันธุ์นี้ที่มาจากแหล่งกำเนิดต้นตำรับเลย คือมาจากเอธิโอเปีย (ในแหล่งเพราะปลูก Gesha) มักจะถูกเรียกว่า “เกชา” และหากเป็นกาแฟสายพันธุ์นี้ แต่นำไปปลูกที่อื่น เราจะเรียกว่า “เกอิชา”
ถึงนี่จะเป็นข้อตกลงที่น่าจะเข้าใจร่วมกันได้แล้ว แต่ก็ยังมีผู้ปลูกกาแฟชาวละตินอเมริกัน ที่ยังใช้ชื่อเรียกว่า “เกชา” เพื่อเป็นการระบุว่า สายพันธุ์กาแฟที่ตนปลูกนี้เป็นสายพันธุ์เอธิโอเปียดั้งเดิม ถึงแม้จะเรียกว่าอย่างไรก็ตาม ความเข้าใจตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด
ที่น่าตลกก็คือ ก็ยังมีคนพยายามผูกคำว่า Geisha นี้กับ Geisha ญี่ปุ่น ซึ่งไม่ถูกต้องเอาเสียเลย และไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้แต่น้อย

ประวัติศาสตร์
การผลิตกาแฟในประเทศเอธิโอเปียนั้นมีตำนานเล่าขานที่เล่าย้อนไปเป็นเวลาสิบกว่าทศวรรษ ได้มีการบันทึกไว้ว่า มีการเพาะปลูกกาแฟกันตั้งแต่ช่วงศตวรรษที่ 9 ประเทศเอธิโอเปียได้เปรียบในเรื่องของความหลากหลายทางพันธุกรรมในเมล็ดพันธุ์อาราบิกา ซึ่งเกี่ยวข้องกับสารเคมีที่อยู่ภายในเม็ดกาแฟที่ให้รสชาติของกาแฟที่หลากหลาย อีกทั้งที่นี่ยังมีสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่ซับซ้อน นั่นส่งผลให้เกิดความแตกต่างขึ้นกับกาแฟที่ปลูกแต่ละพื้นที่และสภาพอากาศ
จากที่มีการบันทึกไว้ เกชาถูกค้นพบในปร 1930 ในเขตภูเขาทางตะวันตกเฉียงใต้ขอเอธิโอเปีย หลังจากที่ทำการเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟได้ในปี 1936 กาแฟสายพันธุ์นี้ก็ถูกนำไปปลูกที่ประเทศแทนซาเนียและคอสตาริกา จากนั้น การเพาะปลูกก็ได้แพร่กระจายไปสู่ประเทศปานามาในช่วง 1960 รวมถึงเข้าไปสู่เมือง Boquete (เมืองเล็ก ๆ ในปานามา ลักษณะเป็นภูเขา)
การเก็บเกี่ยวและการแปรรูป
กาแฟสายพันธุ์นี้จะเริ่มเก็บเกี่ยวเมื่อผลเชอร์รีสุก โดยจะทำการคัดเลือกอย่างดี ไม่ได้เก็บมาหมดในทีเดียว แต่จะเป็นการเลือกแต่ผลที่สุกเท่านั้น ผลเชอร์รีที่สุกหมายความว่า กาแฟที่ได้จะมีความหวานกว่า จากนั้นผลเชอร์รีจะผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ
หากเป็นเจ้าใหญ่หน่อยก็จะมีเครื่องคอยเช็คคุณภาพของผล แต่หากเจ้าไม่ใหญ่จะใช้วิธีการคัดด้วยมือ หลังจากนั้นผลเชอร์รีจะแยก นำไปผ่านกระบวนการแตกต่างกัน 2 กระบวนการ เรียกว่ากระบวนการแบบเปียกและแบบแห้ง
ผลที่ผ่านกระบวนการแบบเปียกนั้น กาแฟที่ได้จะมีความคลีนกว่า และมีความละเอียดอ่อนกว่า ตัวบอดี้จะมีความเบากว่า acidity ชัดเจนกว่าและยังสว่างกว่าด้วย อีกทั้งยังมีความสมดุล หรือบาลานซ์ที่ดี ส่วนที่ผ่านกรรมวิธีแบบแห้งนั้น กาแฟที่ได้จะมีรสชาติเข้มข้น รสชาติผลไม้หวานกว่า มี acidity น้อยกว่า แต่ก็มีบางเคส ที่ acidity จะชัดเจนกว่า และสามารถอธิบายรสชาติได้ง่ายกว่า
รสชาติ
ต้องยอมรับว่า รสชาติของกาแฟเกชานี้เอง ที่ทำให้กาแฟตัวนี้เป็นที่ร่ำลือ และมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก กาแฟสายพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักและมีจุดเด่นในเรื่องของความหวานและกลิ่นดอกไม้อันเป็นเอกลักษณ์ ดอกไม้สีขาว เช่น ดอกมะลิ อีกทั้งยังมีความช็อคโกแลต น้ำผึ้ง หรืออาจเป็นชาดำ รสชาติอันซับซ้อนเหล่านี้ รวมถึงดอกไม้และอีกมากมาย เป็นคุณสมบัติร่วมเฉพาะตัวของกาแฟจากแอฟริกา
นอกจากนี้ ด้วยตัวโปรไฟล์เหล่านี้เอง ทำให้กาแฟสายพันธุ์นี้มีราคาสูงมากอีกด้วย การแยกแยะกาแฟแต่ละถ้วน กับกาแฟแต่ละพื้นที่ยังคงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก กาแฟ Geisha ตัวไหนมาจากแหล่งไหน ซึ่งจำเป็นที่จะต้องใช้นักชิมฝีมือดี หรืออาศัยประสบการณ์อย่างมาก ความพิเศษอีกอย่างก็คือ การนำกาแฟสายพันธุ์นี้ไปปลูกที่ไหน เราก็จะได้กลิ่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นั่นผสมปนกันเข้ามาด้วย
นี่เองทำให้กาแฟนั้นพิเศษ เป็นที่ต้องการของคนหมู่มาก และมีราคาที่สูง

ราคา
งานแข่งขันที่มีชื่อว่า Best of Panama Coffee เป็นงานแข่งที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในเรื่องของการประมูลกาแฟที่มีคุณภาพสูง ซึ่งก็ได้มีคนอ้างว่า กาแฟสายพันธุ์นี้เองเป็นกาแฟที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก โดยในปี 2004 Hacienda La Esmeralda ได้นำกาแฟสายพันธุ์นี้เข้าสู่การแข่งขันนี้
ด้วยรสชาติที่แปลกใหม่และไม่เหมือนใครนี้เอง ทำให้กาแฟตัวนี้ได้ถูกประมูลไปในราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคนั้น โดยราคาอยู่ที่ 21 เหรียญต่อปอนด์ (ประมาณกิโลกรัมละ 1500 บาท) 15 ปีต่อมา ที่เวทีการแข่งขันเดิม ได้มีเกอิชาตัวหนึ่งที่ขายได้ที่ราคา 1029 เหรียญต่อปอนด์ (ประมาณกิโลกรัมละ 73600 บาท) ซึ่งกาแฟตัวนั้นได้รับฉายาว่า “Elida Natural Geisha 1029” ถูกผลิตขึ้นที่ Lamastus Family Estates
ในตอนนั้นกาแฟตัวนี้ขายได้ 100 ปอนด์ในราคา 100000 เหรียญ ต่างจากอันดับสองที่ขายได้ 80000 เหรียญ ด้วยเหตุนี้ กาแฟเกอิชาจึงได้ชื่อว่า เป็นกาแฟที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก