กาแฟฮอนดูรัส กับภูมิภาคทั้ง 6

ประเทศฮอนดูรัส ประเทศเล็ก ๆ ที่แสนสวยงาม ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกากลาง ที่ประเทศที่สวยงามแห่งนี้เป็นประเทศที่สามารถที่จะผลิต กาแฟฮอนดูรัส คุณภาพได้ โดยประเทศฮอนดูรัสนี้เป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่มีอัตราความยากจนค่อนข้างสูง และกาแฟที่ปลูกที่นั่นก็พบเจอกับปัญหาหลายอย่าง แต่ในภาคกาแฟสเปเชียลตี้ของที่นี่ก็เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง กาแฟจากหลายแหล่งในฮอนดูรัสได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของประเทศแห่งนี้ นอกจากนี้กาแฟจากที่นี่ยังเคยเป็นผู้ชนะการแข่งขัน Cup Of Excellence (COE) ในปี 2017 โดยกาแฟที่ชนะการแข่งขันคือ กาแฟพันธุ์ Parainema ปลูกโดย Oscar Daniel Ramirez Valerio จาก Finca el Laurel, El Paraiso โดยสามารถทำคะแนนการคัปปิ้งได้ถึง 91.81 คะแนน และถูกขายในราคา 124.50 เหรียญสหรัฐต่อปอนด์ ซึ่งเป็นราคาที่สูงมากในตอนนั้นสำหรับกาแฟฮอนดูรัสเลยทีเดียว

กาแฟฮอนดูรัสนั้นมีความพิเศษอย่างไร เหตุใดกาแฟที่นี่จึงกลายเป็นกาแฟคุณภาพ และถูกนำมาบริโภคกันทั่วโลก แม้แต่ในบ้านเราแทบจะทุกที่ที่ขายกาแฟสเปเชียลตี้ เราก็สามารถหากาแฟฮอนดูรัสดื่มกันได้แบบไม่ยาก เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องของภูมิภาคต่าง ๆ ในการปลูกกาแฟของฮอนดูรัส ว่ามีภูมิภาคใดบ้าง แต่ละภูมิภาคมีความแตกต่างกันอย่างไร รสชาติที่ได้ของกาแฟแต่ละที่เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่

Coffee in Honduras

สิ่งที่ทำให้ กาแฟฮอนดูรัส แตกต่าง

สิ่งที่ทำให้กาแฟฮอนดูรัสนั้นมีความแตกต่าง และมีความยอดเยี่ยมอย่างน่าเหลือเชื่อนั่นก็คือเรื่องของความหลากหลาย ประเทศฮอนดูรัสถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ก็เป็นประเทศที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย ทั้งในเรื่องของพันธุ์กาแฟที่ใช้ปลูก การโพรเซสแต่ละที่ที่มีความแตกต่างกัน ระดับความสูงต่ำของภูมิภาคของที่นี่ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ยังรวมถึงภูมิอากาศ ทั้งหมดทำให้รสชาติของกาแฟมีความแตกต่างกันออกไป

โดยปกติทั่วไปแล้ว ที่ฮอนดูรัสจะมีปริมาณน้ำฝนต่อปีอยู่ที่ระหว่าง 1,300-2,300 มิลลิเมตร แต่ก็มีในบางพื้นที่ที่มีความชื้นมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ พันธุ์กาแฟที่ปลูกอยู่ที่นี่ก็มีอยู่มากมายยกตัวอย่างเช่น Catuai, Pacas, Lempira, IHCAFE90 และ Parainema ส่วนใหญ่แล้วจะทำการโพรเซสแบบ Washed ซึ่งจะพบได้มากที่สุด แต่ก็ยังพบการโพรเซสรูปแบบพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย อย่างการนำมาทำ Honey หรือทำแบบ Natural ก็มีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ (ซึ่งจะเป็นการโพรเซสที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นแบบวิธีดั้งเดิม โดยจะเรียกกันว่า guacucos)

ในประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ให้ผลผลิตกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความโดดเด่นค่อนข้างสูง ซึ่งในแต่ละภูมิภาคการปลูกก็จะได้กาแฟที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ในประเทศแห่งนี้จะมีภูมิภาคถูกกาแฟอยู่ด้วยกัน 6 ภูมิภาค ซึ่งแต่ละภูมิภาคมีจุดเด่นที่แตกต่างกันมาก ดังนี้

Copán, West Honduras

ภูมิภาค Copán เป็นภูมิภาคที่ตั้งอยู่บริเวณทางทิศตะวันตกของฮอนดูรัส มีพรมแดนติดกับประเทศกัวเตมาลา และยังติดกับรัฐ Copán, ภูมิภาคเล็ก ๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเขต Santa Barbara มีระดับความสูงอยู่ที่ประมาณ 1,000-1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีทั้งระดับความชื้นและอุณหภูมิที่แตกต่างกันมากในภูมิภาค อุณหภูมิต่ำสุดของภูมิภาคนี้จะอยู่ที่ 11.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าเป็นภูมิภาคที่มีอุณหภูมิต่ำที่สุดในประเทศที่จะปลูกกาแฟเลยทีเดียว

กาแฟของที่นี่จะมีความหอมหวาน มีกลิ่นของช็อกโกแลต คาราเมล และซิตรัส บอดี้ของกาแฟมีแนวโน้มจะไปทางค่อนข้างหนา และจะมีความครีมมี่อยู่ Aftertaste ของกาแฟที่ปลูกที่นี่ค่อนข้างดี และกาแฟที่ได้มีบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยม พันธุ์กาแฟทั่วไปที่มักจะปลูกที่นี่ได้แก่ Bourbon, Caturra และ Catuai 

กาแฟจาก Copán เป็นกาแฟที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นพิเศษในฮอนดูรัส เนื่องจากกาแฟจากแหล่งนี้ได้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของ Honduran Western Coffees (HWC) แหล่งปลูกกาแฟตรงนี้เป็นแหล่งปลูกกาแฟที่มีความโดดเด่นสูง ยังมีหลายคนบอกว่า กาแฟของภูมิภาคนี้เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาทำกาแฟเบลนด์

Opalaca

ภูมิภาค Opalaca จะเป็นภูมิภาคที่อยู่บริเวณแถบทางตะวันออกของ Copán และก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของ HWC พื้นที่ตั้งอยู่ใน 3 เขตใหญ่ของประเทศฮอนดูรัสได้แก่ Santa Barbara, Intibucá และ Lempira ส่วนใหญ่แล้วพันธุ์กาแฟที่จะปลูกที่นี่จะเป็นกาแฟพันธุ์ Bourbon, Catuai และ Typica

ด้วยระดับความสูงที่มีความสูงขึ้นมาเล็กน้อย อยู่ในระดับ 1,100-1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ดังนั้นกาแฟก็ยังคงมีความซับซ้อนของรสชาติอยู่ คุณจะได้กลิ่นของผลไม้เมืองร้อน องุ่น และเบอร์รี่ ความเป็นกรดของกาแฟค่อนข้างดี และมีบาลานซ์ที่ยอดเยี่ยมด้วย ยังสามารถพบรสชาติอื่น ๆ ที่มีความแตกต่างจากกาแฟในภูมิภาคนี้ อีกมากมายด้วย

Typica Green

Montecillos

ภูมิภาค Montecillos เป็นภูมิภาคที่มีความพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศและระดับความสูงของภูมิภาคแห่งนี้ พื้นที่ในการปลูกกาแฟของที่นี่จะอยู่ในระดับความสูงระหว่าง 1,200-1,600 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ช่วงเวลากลางคืนอากาศจะค่อนข้างเย็น ซึ่งนั่นทำให้ผลเชอรี่สามารถที่จะมีเวลาพัฒนารสชาติที่หวานมากขึ้น ผลไม้จะสุกช้าลง

ภูมิภาคปลูกกาแฟแห่งนี้ ตั้งอยู่ในแถบทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศฮอนดูรัส ซึ่งจะเป็นพื้นที่บริเวณแนวชายแดนของ El Salvador กาแฟที่ได้ของที่นี่ จะเป็นกาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นพีช ส้ม แอปริคอต และมีคาราเมลด้วย บอดี้ของกาแฟที่นี่ค่อนข้างนุ่ม มีกรด tartaric เพิ่งจะทำให้กาแฟมีรสเปรี้ยวคล้ายกับองุ่น

และด้วยในภูมิภาคแห่งนี้มีสภาพอากาศที่เรียกว่า micro climate ที่แห่งนี้จึงสามารถใช้ในการทดลองเทคนิคต่าง ๆ เพื่อที่จะทำให้กาแฟมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น อย่างการนำไปหมักเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำตาล และวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อทำให้กาแฟมีรสชาติที่ดีและแปลกใหม่มากขึ้น

Comayagua, Central Honduras 

ภูมิภาค Comayagua ตั้งอยู่ใจกลางของประเทศฮอนดูรัส ในภูมิภาคจะประกอบด้วยรัฐ Comayagua และ Francisca Morazán ภูมิภาคแห่งนี้ตั้งอยู่บนระดับความสูง 1,000-1,500 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีข้อมูลพบว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภูมิภาคแห่งนี้ยังเป็นภูมิภาคที่มีผลผลิตกาแฟสูงที่สุดใน 6 ภูมิภาคที่ว่ามานี้เลยทีเดียว

คุณภาพและรสชาติของกาแฟในภูมิภาคแห่งนี้ก็ค่อนข้างน่าสนใจ เมื่อปี 2017 ในการประกวด Project Origin Best of Honduras Washed Champion กาแฟ Pacamara จาก Finca Las Botijas สามารถที่จะทำคะแนนได้สูงถึง 91.34 และขายได้ในราคา 29.10 เหรียญสหรัฐต่อปอนด์ ซึ่งค่อนข้างสร้างความประทับใจ ด้วยรสชาติกาแฟที่มีความซับซ้อน มีความฉ่ำของตัวกาแฟ รสชาติและกลิ่นของผลไม้ นอกจากนั้นกาแฟในภูมิภาคแห่งนี้ยังมีกลิ่นของลูกอม พีช มะม่วง ดอกไม้ ดอกมะลิ แอปริคอท มะนาว น้ำผึ้ง ลูกเกดดำ ส้ม แตงโม ฝรั่ง ชบา ราสเบอร์รี่ องุ่นขาว องุ่นแดง และมิ้นต์

ในกาแฟจากภูมิภาค Comayagua เพียง 1 แก้วนั้น เราจะสามารถพบกลิ่นหอมหวานของผลไม้รสเปรี้ยว ผสมผสานกับความเป็นกรดที่ค่อนข้างสว่าง และความครีมมี่ที่เข้มข้นได้ ซึ่งนับว่าซับซ้อนและหลากหลายเป็นอย่างมาก ทานกาแฟที่นิยมปลูกกันที่นี่ได้แก่ Typica, Bourbon, Parchi, และกาแฟพันธุ์ไฮบริดอื่น ๆ อีกมากมาย

El Paraiso, South Honduras 

มาถึงภูมิภาคปลูกกาแฟที่เราหลายคนน่าจะคุ้นเคยกัน กับกาแฟจากภูมิภาค El Paraiso ภูมิภาคชื่อดังซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฮอนดูรัส มีพรมแดนติดกับประเทศนิการากัว ระดับความสูงของที่นี่จะอยู่ที่ 1,000-1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อุณหภูมิของที่นี่ค่อนข้างสูง จะอยู่ที่ประมาณ 16-22.5 องศาเซลเซียส

ภูมิภาคนี้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา จากการที่กาแฟจากที่นี่คว้าแชมป์ Cup of Excellence ในปี 2017 เป็นกาแฟพันธุ์ Parainema ซึ่งเติบโตในภูมิภาค El Paraiso แห่งนี้ ในระดับความสูง 1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล มีรสชาติและกลิ่นหอมของแอปเปิ้ลเขียว ดอกมะลิ พีช บลูเบอร์รี่ ส้ม และไวน์ขาว

และยิ่งไปกว่านั้น กาแฟพันธุ์ Parainema ยังเป็นกาแฟที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาจาก Sarchimor ให้มีความทนทานต่อการเกิดโรคสนิมมากขึ้น ทำให้กาแฟพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดสเปเชียลตี้ กาแฟพันธุ์นี้มีรสชาติที่ดีเยี่ยม และยิ่งได้กรรมวิธีการโพรเซสที่ถูกต้อง จะยิ่งชูรสชาติของกาแฟตัวนี้มากขึ้นไปอีก

โดยทั่วไปแล้วกาแฟจากภูมิภาคแห่งนี้ จะค่อนข้างออกไปทางรสหวาน มีความเป็นกรดซิตริก บอดี้ค่อนข้างนุ่มนวล อีกทั้งยังพบรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟที่นี่เช่น แชมเปญ องุ่น มะม่วง และผลไม้เมืองร้อน และยังมีกลิ่นของดอกไม้กับ mouthfeel ที่ดี ซึ่งจะเพิ่มความครีมมี่ในปากด้วย

Caturra Coffee

Agalta

ภูมิภาคหลักภูมิภาคสุดท้ายนี้คือภูมิภาค Agalta ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศฮอนดูรัส ภูมิอากาศของที่นี่จะเป็นภูมิอากาศแบบเขตร้อน มีระดับความสูงตั้งแต่ 1,100-1,400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล พันธุ์กาแฟทั่วไปที่ปลูกกันอยู่ที่นี่ได้แก่ Bourbon, Caturra และ Typica

กาแฟจากภูมิภาคแห่งนี้จะให้รสชาติผลไม้เมืองร้อนที่มีความหลากหลาย อีกทั้งยังมีกลิ่นของคาราเมลและช็อกโกแลตด้วย มีรสเปรี้ยวที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนและเด่นชัด และมีรสหวานที่ยังคงค้างอยู่ในปากที่ดี

จากทั้งหมดที่กล่าวมาเราจะเห็นได้ว่า กาแฟของประเทศฮอนดูรัสนั้นมีให้เราเลือกด้วยกันมากมายหลากหลายภูมิภาค และหลากหลายพันด้วย อีกทั้งโปรไฟล์รสชาติของแต่ละพันธุ์ แต่ละภูมิภาค หรือแม้กระทั่งแต่ละวิธีการโพรเซสก็มีความแตกต่างกันอย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้นจึงนับได้ว่ากาแฟจากฮอนดูรัสนี้ เปรียบดั่งเป็นอัญมณีแห่งอเมริกากลางเลยก็ว่าได้ มีทั้งกาแฟที่มีความเป็นแชมเปญแบบของ El Paraiso แบบที่มีบอดี้นุ่มนวลอย่าง Marcala หรืออาจจะเลือกเป็นแบบที่มีความซับซ้อนอย่าง Opalaca และด้วยความหลากหลายนี่เองทำให้กาแฟจากประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้มีความพิเศษและความยอดเยี่ยม

อย่างที่บอก แม้แต่ในบ้านเราก็มีกาแฟฮอนดูรัสยอดเยี่ยมให้ได้ดื่มกัน แน่นอนว่าส่วนมากจะเป็นกาแฟ El Pariso สุดโด่งดัง หากใครมีโอกาสได้ลองดื่มกาแฟจากภูมิภาคอื่น อยากให้ลองดูสักครั้ง แล้วคุณจะได้สัมผัสถึงความยอดเยี่ยมของอัญมณีแห่งอเมริกากลางเลยทีเดียว