ในเรื่องของการสตีมนม และการทำลาเต้อาร์ตนั้น นับว่าเป็น 2 ทักษะที่ค่อนข้างมีความจำเป็นสำหรับบาริสต้าทุกคน ทั้งสองนับว่าเป็นทักษะที่จะต้องใช้ความเชี่ยวชาญในระดับหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญ และไม่ใช่ครั้งแรก ที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้ มีปัจจัยมากมายหลายอย่างที่จำเป็นจะต้องคำนึง หากอยากจะสตีมนม และทำลาเต้อาร์ตออกมาให้ยอดเยี่ยม อีกสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือการใช้ พิชเชอร์ หรือเหยือกสำหรับเทลาเต้อาร์ต พิชเชอร์ที่เราเลือกนำมาใช้ หากเราเลือกมาอย่างเหมาะสม มันจะสามารถช่วยเราในเรื่องนี้ได้มากเลยทีเดียว
ในท้องตลาดเอง มี พิชเชอร์ ให้เราเลือกอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นสีที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการออกแบบดีไซน์ ทั้งเรื่องของขนาด และรูปร่าง รวมถึงประเภทของปากเหยือก แม้แต่น้ำหนักก็ยังแตกต่างกัน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัย ที่มีส่วนในการเทลาเต้อาร์ตของเราด้วยกันทั้งสิ้น

และอย่างที่กล่าวไปว่า มีทางเลือกในท้องตลาดมากมาย สำหรับการเลือกซื้อและหาพิชเชอร์ มาใช้งาน แล้วแบบนี้เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าแบบไหนจะเหมาะสมกับเรามากที่สุด และแบบไหนจะดีที่สุดสำหรับเรา วันนี้เรามาชวนคุณเลือกพิชเชอร์ ให้เหมาะสมกับการใช้งานของตัวคุณเองกัน
พื้นฐานในการเลือกพิชเชอร์
เรามาเริ่มกันที่พื้นฐานในการเลือกพิชเชอร์ มีสิ่งแรกที่เราจะต้องหยิบมาพิจารณา สิ่งนั้นก็คือความกว้างของพิชเชอร์ อย่างแรกเลยก็คือ พิชเชอร์ของเรา อาจจะต้องมีความกว้างที่มากพอ ที่จะมีพื้นที่สำหรับการสตีม เพื่อให้ได้เกิดกระแสน้ำวนข้างใน น้ำวนที่เกิดขึ้นนี้ จะไปทำการสลายฟองนมที่มีขนาดใหญ่กว่า และทำการสร้างฟองนมที่มีขนาดเล็กและละเอียดอ่อนมากพอ ที่จะมีลักษณะเป็นไมโครโฟม
ไมโครโฟมที่ว่า คือฟองนมที่มีขนาดเล็กและละเอียด มันจะก่อตัวขึ้นมา เมื่อนมทำปฏิกิริยากับอากาศ และได้รับความร้อนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ได้นมที่มีความละเอียด และมีความเนียนนุ่ม เป็นมันเงา นมนี่ไม่เพียงแต่เพิ่มรสชาติให้ยอดเยี่ยมขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มเนื้อสัมผัส ที่นุ่มฟู และทำให้เหมาะสมสำหรับการออกแบบและเทลาเต้อาร์ตของเราได้
ขนาดของพิชเชอร์
พิชเชอร์ส่วนใหญ่นั้น จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ขนาด ขนาดแรกคือแบบ 12 ออนซ์ และอีกขนาดคือขนาด 20 ออนซ์ แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าขนาดของพิชเชอร์ จะมีความแตกต่างกัน แต่ในร้านกาแฟปกติทั่วไปที่มักใช้กัน ไม่ว่าจะเป็นขนาด 12 หรือขนาด 20 ออนซ์ ไม่ว่าอย่างไรก็ควรมีก้น หรือฐานที่มีขนาดใกล้เคียงกัน
และสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ที่อาจจะต้องหยิบมาพิจารณาร่วมด้วยเช่นเดียวกัน เมื่อเราจะต้องทำการเลือกพิชเชอร์ คือเรื่องของปริมาณนม ที่เราต้องการใช้สำหรับการเสิร์ฟเครื่องดื่มของเรา เมื่อพูดถึงการสตีมและการตีฟองนมแล้ว แน่นอนว่าเราคงไม่อยากให้พิชเชอร์ของเรา มีนมในปริมาณที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไปจนล้นออกมา หากเรามีนมในปริมาณที่น้อยจนเกินไปในพิชเชอร์ เราจะไม่สามารถทำการจุ่มก้านสตีมลงไปลึกพอ เพื่อที่จะได้ทำการอัดอากาศลงไปในน้ำนมได้ดี ในทางกลับกันหากนมมากจนเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือนมจะล้นออกมา เมื่อตอนที่เราทำการสตีม ปริมาณนมที่เหมาะสม ควรจะอยู่ที่ปริมาณ 1 ใน 3 ของพิชเชอร์
วัสดุที่ใช้ในการทำพิชเชอร์
แน่นอนว่า การที่เราจะเลือกพิชเชอร์ วัสดุที่ใช้ในการทำควรเป็นสแตนเลสคุณภาพสูง เพราะสแตนเลสคุณภาพสูงดังกล่าวนี้ จะทำให้อุณหภูมิในการสตีมสม่ำเสมอ ในการสตีมนม ถ้าจะให้เหมาะสมเลยควรอยู่ที่อุณหภูมิประมาณ 60-70 องศาเซลเซียส ในขณะที่เราสตีม พิชเชอร์ของเราจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นไปพร้อมกับนม และถ้าหากใครกังวลเรื่องความร้อน กลัวว่าอุณหภูมิจะร้อนจนเกินไป ก็ยังสามารถที่จะมองหาพิชเชอร์ที่มีการเคลือบเทฟล่อน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันนิ้วและมือจากความร้อน

ปากเหยือก
บาริสต้ามืออาชีพหลายคน ไม่ว่าจะใช้พิชเชอร์ แบบใดก็ตาม ก็ยังคงสามารถที่จะเทลาเต้อาร์ตชั้นเยี่ยมออกมาได้ และสามารถทำออกมาได้ตามแต่ใจนึก แต่หากสำหรับมือใหม่ หรือผู้ที่กำลังฝึกเทลาเต้อาร์ต การเลือกพิชเชอร์ ที่อยากจะแนะนำอย่างหนึ่ง หากอยากจะเทลาเต้อาร์ตออกมาให้ง่ายดาย ให้ลองดูที่ลักษณะของปากเหยือก จะมีบางแบบที่ออกแบบมา ให้ง่ายต่อการเทลาเต้อาร์ตมากกว่า แต่ก็ยังต้องอาศัยการเรียนรู้และการฝึกฝนอยู่ดี
2 ลายยอดนิยม สำหรับผู้เริ่มต้นในการเทลาเต้อาร์ต คือลายหัวใจและลายดอกทิวลิป แน่นอนว่าในขั้นตอนเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญมากที่สุดอย่างหนึ่ง คือการเลือกพิชเชอร์ แบบที่สามารถช่วยให้เราได้ฝึกฝนง่ายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแบบยอดนิยมที่สุด ที่มักจะใช้ในการฝึกฝนเทลาเต้อาร์ต คือพิชเชอร์แบบคลาสสิก ซึ่งมันจะช่วยให้ฟองนมไหลออกมาอย่างสม่ำเสมอ สวยงาม และง่ายดายมากที่สุด
ในทางกลับกัน ลาเต้อาร์ตที่เป็นลาย rosetta หรือดอกกุหลาบ จะค่อนข้างยาก หากเราใช้พิชเชอร์รูปแบบมาตรฐานนี้ แต่ลาเต้อาร์ตลาย slowsetta (ลายคล้ายกับใบไม้) อาจจะง่ายมากกว่า หากใช้พิชเชอร์แบบธรรมดาทั่วไป
มีพิชเชอร์แบบคลาสสิก หรือแบบธรรมดาทั่วไป ก็ยังมีให้เลือกใช้งานด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งสามารถรองรับการเทลาเต้อาร์ตมากมายหลากหลายลายได้ อย่างเช่น Incasa และ Joe Frex ต้องการปรับความสม่ำเสมอของการเทให้กลม อาจจะใช้พิชเชอร์ Motta ซึ่งมีบริเวณปากพิชเชอร์ ที่ค่อนข้างโค้งกว่า จะง่ายมากกว่าสำหรับการเทรูปหัวใจและดอกทิวลิป หรือจะเลือกเป็นพิชเชอร์ Barista Gear ที่มีบริเวณปากค่อนข้างบาง และจะมีความคมมากกว่า เหมาะสำหรับการเทลาเต้อาร์ตที่มีลายซับซ้อน
มีหูจับหรือไม่มีหูจับ
เรื่องของหูจับ ก็ถือเป็นเรื่องที่นำมาพิจารณาในการเลือกได้ เราต้องการแบบที่มีที่จับหรือไม่ นั่นขึ้นอยู่กับว่าในการจับพิชเชอร์ เราจับด้วยวิธีการใด บางคนอาจเลือกที่จะเลือกพิชเชอร์แบบไม่มีหูจับ เพราะมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน หรือลักษณะการเทมีอิสระมากกว่า นอกจากนี้แล้ว ยังทำให้สามารถจับบริเวณด้านบนของพิชเชอร์ได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถควบคุมความแม่นยำได้ดีขึ้นอีกด้วย
แต่หากอยากจะเลือกพิชเชอร์แบบไม่มีหูจับ เราก็อาจจะต้องพิจารณาอีกจุด นั่นก็คือระหว่างการที่เราสตีมนม อุณหภูมิของนมจะค่อนข้างสูง ดังนั้นหากเราจะเลือกแบบไม่มีด้ามจับ อาจจะแนะนำให้เลือกซื้อพิชเชอร์แบบที่มีฉนวนหุ้ม น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
และในบทความทั้งหมดนี้ เราได้กล่าวถึงทางเลือกมากมาย และประเด็นมากมายหลากหลายในการเลือกซื้อพิชเชอร์ หรือเลือกหาพิชเชอร์คู่ใจมาไว้ใช้สำหรับกรณีที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าอย่างไร ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่สำคัญมากที่สุด ในการที่เราจะเลือกพิชเชอร์ นั่นก็คือความพึงพอใจของเรา เราชอบหรือไม่ชอบแบบไหน น้ำหนักมากน้อยเท่าไร ที่เราจะสามารถควบคุมความร้อนได้อย่างเหมาะสม ควบคุมการเทของเราได้อย่างเหมาะสม หรือแม้แต่เรามีวิธีการถือพิชเชอร์อย่างไร เราอยากจะเทให้เส้นหนาขึ้น หรือบางลง แบบไหนจะถนัดมือเราที่สุด ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยที่เราจำเป็นที่จะต้องหยิบมาพิจารณาดูร่วมด้วย

สิ่งที่เหมาะสม และใช้ได้ดีสำหรับบาริสต้าคนหนึ่ง อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับบาริสต้าอีกคนหนึ่ง หรืออีกหลายคนก็ได้ ดังนั้นสิ่งนี้ไม่สามารถก็อปปี้ได้ และอยู่ที่ความถนัด และความชอบส่วนบุคคลเลย หรือหากใครไม่รู้ว่าอยากจะใช้พิชเชอร์ ในลักษณะหรือในรูปแบบไหน ให้เราลองทดลองใช้พิชเชอร์รูปแบบต่างๆ จากนั้นคนถามแบบที่เราชอบที่สุด ฝึกฝนทักษะของเราให้ได้มาก โดยเฉพาะในขั้นต้น การที่เราเลือกพิชเชอร์ให้เหมาะสมมากที่สุด เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการเริ่มในการฝึกฝนการสตีมนม และการที่ลาเต้อาร์ต ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานอย่างหนึ่งที่สำคัญของบาริสต้าเลยทีเดียว