ดอกกาแฟ ใช้ทำอะไรได้บ้าง

สำหรับฟาร์มกาแฟหรือไร่กาแฟทั่วโลก แน่นอนว่าก่อนที่ต้นเชอรี่กาแฟจะออกผลผลิตให้เรานั้น มันจะออก ดอกกาแฟ สีขาวและมีกลิ่นหอม และนี่เองเป็นหนึ่งในกระบวนการและวงจรชีวิตของต้นกาแฟ การสังเกตลักษณะลักษณะของดอกกาแฟบนต้นกาแฟนี้ สามารถที่จะบอกได้ในระดับหนึ่งเลยว่าผลผลิตในฤดูกาลนั้นของกาแฟจะเป็นอย่างไร และเกษตรกรจะสามารถเตรียมตัวอะไรสำหรับเดือนหน้าได้

ฤดูกาลการบานของดอกกาแฟนั้นเริ่มช่วงเวลาที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของฟาร์มกาแฟ สภาพพูมิอากาศในแถบนั้นนั้น รวมถึงปัจจัยอื่นอีกมากมายหลากหลาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วดอกกาแฟเหล่านั้นก็จะร่วงลงจากต้นในท้ายที่สุด

Typica Flower

และคำถามที่สำคัญต่อมาก็คือ จะเกิดอะไรขึ้นกับดอกกาแฟเหล่านี้ ผู้ผลิตกาแฟหรือกาแฟส่วนใหญ่นำดอกกาแฟเหล่านี้ไปทำ เกษตรกรจำนวนมากเลยทีเดียว สามารถนำดอกกาแฟเหล่านี้ไปทำการรีไซเคิล หรือนำไปทำอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้ และใช้ประโยชน์กับต้นกาแฟให้ได้มากที่สุด ดังนั้นดอกกาแฟเหล่านี้จึงมีประโยชน์และนำไปใช้งานต่อ นอกจากจะมีประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรแล้ว ยังจะเป็นการสร้างขยะได้น้อยลงอีกด้วย ในวันนี้เราจะไปดูกันว่า ดอกกาแฟ เหล่านี้ใช้ทำอะไรได้บ้าง

ทำไมต้นกาแฟจึงออกดอก

โดยปกติทั่วไปแล้ว ต้นกาแฟของเราจะเริ่มออกดอกประมาณ 3-4 หลังจากการปลูก ระยะเวลาในการออกดอกจะอยู่ที่ประมาณ 2-3 เดือน ในช่อดอกแต่ละช่อจะสามารถออกดอกได้ถึง 4 ดอก ซึ่งดอกเหล่านี้จะเติบโตเป็นกระจุกตามแนวแกน หรือตามก้านของใบนั่นเอง

สำหรับต้นกาแฟนั้น เซลล์สืบพันธุ์ตัวผู้และตัวเมียจะอยู่ที่ดอกเดียวกัน อาราบิก้าเป็นสายพันธุ์กาแฟที่ผสมเกษรได้ด้วยตนเอง แต่โรบัสต้านั้นต่างกันออกไป มันจำเป็นที่จะต้องใช้การผสมเกสรข้ามต้นในการสืบพันธุ์ ด้วยสีสันและน้ำหวานที่อยู่ในดอกไม้ จะเป็นการดึงดูดแมลงเพื่อให้ช่วยสำหรับการผสมเกสร แมลงจะทำการถ่ายโอนละอองเกษรจากเกสรตัวผู้ไปยังเกสรตัวเมีย ซึ่งแมลงเหล่านี้เองมีความสำคัญมากต่อการสืบพันธุ์ของกาแฟโรบัสต้า

เงื่อนไขการออกดอกของกาแฟนั้น จะออกดอกหลังจากที่กาแฟได้รับน้ำในปริมาณที่มาก หรือก็คือช่วงที่มีฝนตกหนักนั่นเอง สภาพอากาศยังมีความสำคัญและมีบทบาทอย่างมากต่อการออกดอกของกาแฟ ยกตัวอย่างเช่น หากในช่วงเวลานั้นมีสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้ง หรือก็คือมีฝนตกน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง ของระดับน้ำฝนที่ต้นกาแฟควรได้รับ ไม่ว่าอย่างไรอย่างไร ดอกกาแฟก็จะงอกออกมาหลังจากได้รับน้ำฝนในปริมาณที่เพียงพออยู่ดี และต้นกาแฟก็จะออกดอกมากที่สุด อยู่ที่ประมาณหนึ่งถึงสองเดือนหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลเก็บเกี่ยว

อุณหภูมิก็เป็นปัจจัยที่มีความสำคัญเช่นเดียวกันในการเจริญเติบโตของต้นกาแฟ โดยช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสม ที่จะสามารถให้ต้นกาแฟออกดอกได้คืออยู่ที่ระหว่าง 19-24 องศาเซลเซียส หลังจากฝนแรกของฤดูกาล ต้นกาแฟก็จะเริ่มออกดอก เพื่อให้ต้นเองมีความแข็งแรงและเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าต้นกาแฟต้องไม่ถูกรบกวน และนี่เองเป็นหน้าที่ของเกษตรกรในฟาร์มที่จะต้องดูแลต้นกาแฟเป็นอย่างมากช่วงเวลานี้

จะเกิดอะไรขึ้นหาก ดอกกาแฟ ร่วงหล่นจากต้นกาแฟ

เรื่องของความสม่ำเสมอในการออกดอกของต้นกาแฟ สามารถที่จะบอกถึงผลผลิตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยพื้นฐานแล้ว การที่ต้นกาแฟมีการออกดอกอย่างสม่ำเสมอทั่วทั้งต้น สามารถที่จะบ่งบอกว่าเชอรี่กาแฟจะสุกในอัตราที่มีความใกล้เคียงกัน หมายความว่าในกระบวนการการเก็บเกี่ยวผลเชอรี่ จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในครั้งละมากๆ และได้ผลเชอรี่คุณภาพสูงด้วย สิ่งนี้ทำให้ใช้เวลาน้อยลงในการเก็บเกี่ยวเชอรี่นั่นเอง

เราจึงอาจที่จะกล่าวได้เลยว่า ดอกกาแฟสามารถที่จะบ่งบอกถึงผลผลิตได้ในอนาคต เกษตรกรก็อยากที่จะเห็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม และมีดอกขนาดใหญ่ ซึ่งมันบ่งบอกถึงศักยภาพของผลผลิตที่เราจะได้เชอรี่ที่ลูกใหญ่ และมีคุณภาพที่ดีตามมาด้วย

ดอกกาแฟเหล่านี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าผู้ผลิตดูแลต้นกาแฟได้ดีมากน้อยเพียงใด ทั้งในเรื่องของการเฝ้าระวัง การเฝ้าติดตาม และป้องกันบรรดาศัตรูพืชต่างๆที่มีอยู่มากมายด้วย ศัตรูพืชเหล่านี้กินผลเชอรี่กาแฟเป็นอาหาร บางชนิดเจาะไปถึงตัวเมล็ดเลยด้วยซ้ำ และแน่นอนว่ามันส่งผลให้คุณภาพและผลผลิตกาแฟลดลง

เกษตรกรจำเป็นที่จะต้องเตรียมพร้อมโดยมีการใช้ปุ๋ย และมีการปฏิบัติตามขั้นตอนการรักษาต้นกาแฟเป็นอย่างดี กระบวนการนี้จะทำกันตั้งแต่ดอกเริ่มออกเลย แต่ถึงอย่างนั้นไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นพืชจะมีการเจริญเติบโตที่ดี หรือมีการออกดอกที่สม่ำเสมอเพียงใด แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดีกับการที่มีดอกไม้ร่วงหล่นจากต้นในจุดหนึ่ง หลังจากที่ดอกไม้บานสูงสุด ดอกจะคงอยู่บนต้น และท้ายที่สุดมันก็จะค่อยค่อยเริ่มเหี่ยวเฉาลง เมื่อดอกไม้ร่วงหล่นแล้วมันจะเหี่ยวเฉาลงและสลายไปอย่างรวดเร็ว 

Coffee Plant Flower

หากเราลองนึกดูดี ๆ แล้ว ดอกไม้ที่ร่วงหล่นลงสู่พื้นก็อาจจะใช้เป็นปุ๋ยหมักตามธรรมชาติได้ ซึ่งมันก็จะปล่อยสารอาหารลงสู่ดิน บริเวณบริเวณที่มีสารอาหารสูงกว่า ก็จะมีการย่อยสลายอย่างรวดเร็วมากกว่า อย่างบริเวณกลีบดอก ที่จะมีการสลายตัวในอัตราที่เร็วกว่าส่วนประกอบของดอกอื่น ๆ เนื่องจากบริเวณนี้มีสารอาหารที่สูงกว่า ต้นกาแฟจะทำหน้าที่ในการดูดซับสารอาหารเหล่านี้ ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นวนไป

การใช้ดอกกาแฟแบบอื่น

ในปัจจุบันนั้นในฟาร์มกาแฟ มีการมุ่งเน้นให้มีการทำฟาร์มแบบยั่งยืน การลดของเสียในอุตสาหกรรมกาแฟถือเป็นสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นเริ่มที่จะมองหาวิธีการใหม่ใหม่ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ในการนำส่วนประกอบต่าง ๆ ของกาแฟเหล่านี้ไปใช้วิธีการก็มีมากมายยกตัวอย่างเช่น

  • การนำ Cascara ไปขาย (หรือก็คือการนำเนื้อและเปลือกของกาแฟไปขาย) แล้วนำไปทำเป็นชากาแฟ
  • การนำเอาเมือก เปลือก และเนื้อกาแฟกลับมาใช้ใหม่ โดยการนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ส่วนประกอบทางชีวภาพ สารยับยั้งแบคทีเรีย แก๊สชีวภาพ หรือแม้แต่การนำไปผลิตเป็นอาหารสัตว์
  • ใช้ใบกาแฟมาเป็นส่วนผสมในน้ำหอม ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า สารดับกลิ่น และใบทดแทนยาสูบ

แม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการลดของเสียที่เกิดจากการผลิตกาแฟ แต่หากเทียบกันนับว่าเป็นรายได้ที่ยังคงน้อยมากกับการขายกาแฟ หากจะมองในธุรกิจวงกว้าง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นรายได้สำรองอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ผลิต มากกว่าที่จะเป็นรายได้หลักเหมือนกับการขายกาแฟนั่นเอง

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ดอกกาแฟก็ยังสามารถใช้ในการทำเป็นปุ๋ยตามธรรมชาติได้ ดังนั้นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างดอกนี้ จึงเป็นส่วนประกอบที่สามารถนำมาผลักดัน หรือสนับสนุนโมเดลเศรษฐกิจหมุนเวียนในอุตสาหกรรมกาแฟได้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็หมายความว่า ผู้ผลิตจะนำเอาดอกกาแฟไปทำอย่างอื่นไม่ได้เลยเสียทีเดียว การนำดอกกาแฟไปใช้งาน ที่อาจเห็นได้อยู่บ้างคือการนำไปขายเป็นชา หรือเครื่องดื่มอื่น หรืออาจจะนำไปทานเป็นชาหมักด้วย

การใช้ดอกกาแฟในการทำชาและสมุนไพร

โรงคั่วกาแฟโรงหนึ่งชื่อว่า Big Island Coffee Roasters บนเกาะฮาวาย มีการใช้กลีบดอกกาแฟ ในการนำมาผลิตเป็นชาดอกกาแฟ ลักษณะคือการนำดอกกาแฟเหล่านี้มาทำให้แห้ง และนำมาผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ ใช้นำชงเหมือนกับชา

วิธีการในการนำดอกกาแฟมาใช้งานคือ เมื่อดอกกาแฟเริ่มที่จะเหี่ยวบนต้นกาแฟ จะทำการเก็บเกี่ยวดอกกาแฟเหล่านี้จากต้น นั่นทำให้การนำไปทำชาจะมีความละเอียดอ่อน มีรสชาติที่หอมหวาน และยังคงมีกลิ่นดอกไม้แบบเต็มที่ แน่นอนว่าการเก็บเกี่ยวนั้น จะสามารถเก็บเกี่ยวดอกกาแฟได้ในสภาพอากาศที่เหมาะสม

การนำดอกกาแฟไปร่วมกับกระบวนการโพรเซส

เรามีโอกาสได้ดื่มกาแฟที่ใช้วิธีการโพรเซสเชิงทดลองด้วยกันมากมายหลากหลาย เราได้เห็นการนำกาแฟไปทำการอินฟิวส์ โดยมีการใช้สารเติมหรือใส่วัตถุดิบอื่นลงในกระบวนการโพรเซส เริ่มมีเกษตรกรบางราย ที่นำเอาดอกกาแฟเหล่านี้มาร่วมกับวิธีการในการโพรเซสด้วย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก ๆ

ส่วนมากแล้วการที่จะนำเอาดอกกาแฟเหล่านี้ไปใช้ในกระบวนการโพรเซส ก็จะมีการใช้งานสำหรับการโพรเซสที่เป็นการโพรเซสเชิงทดลองเหมือนกัน อย่างเช่นการนำไปหมัก anaerobic หรือแม้แต่การหมัก aerobic ก็นำมาใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือการได้กาแฟที่มีรสชาติและรายละเอียดที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น

Coffee Flower in Brance

โดยสรุปแล้ว ดอกกาแฟถือเป็นส่วนประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญสำหรับต้นกาแฟเป็นอย่างมาก เพราะมันสามารถที่จะบ่งบอกได้มากเลยทีเดียวว่าผลผลิตในฤดูกาลนั้นจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาออกดอกก็มีความสำคัญ ช่วงเวลาสำหรับการออกดอกก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน และนอกจากดอกกาแฟจะตัวบ่งชี้วัดในระดับหนึ่งถึงผลผลิตกาแฟที่ได้ในอนาคตแล้ว เกษตรกรบางรายยังสามารถที่จะใช้ดอกกาแฟนี้ นำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้อีกด้วย

นอกจากนี้ การที่เกษตรกรมีการกระจายรายได้เหล่านี้ ยังนับว่าค่อนข้างที่จะมีประโยชน์แก่พวกเขาเป็นอย่างมาก ในอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็นการนำดอกกาแฟ ไปทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นอีกมากมายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน หรืออาจจะเป็นชาดอกกาแฟให้เราได้ดื่มกันอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น