การบดกาแฟ แบบ single-dose หรือ single-dose grinding เรียกได้ว่ากลายเป็นเทคนิคการบดกาแฟ ที่ไม่ใช่เพียงแค่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ที่ชงกาแฟดื่มเองที่บ้านเท่านั้น แต่สิ่งนี้ยังได้รับความนิยมอย่างมาก และกำลังมากขึ้น ในหมู่ผู้ที่เป็นบาริสต้ามืออาชีพ ที่เสิร์ฟกาแฟทั้งในร้านเฉพาะทาง รวมถึงร้านกาแฟทั่วไปด้วย จะว่าไปแล้ว บดกาแฟ single-dose เป็นอะไรที่ง่ายและไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงแค่การชั่งกาแฟตามที่เราต้องการ และบดกาแฟเพียงเท่านั้น แล้วมันมีอะไรซับซ้อนไปกว่านั้น จนเราต้องหยิบเรื่องนี้มาคุยกัน
มีเหตุผลมากมายหลากหลายประการ และแตกต่างกันออกไป ที่ทั้งผู้ที่ชงกาแฟดื่มเองที่บ้าน รวมถึงผู้ที่เป็นบาริสต้ามืออาชีพ เลือกที่จะใช้วิธี การบดกาแฟ แบบ single-dose แน่นอนว่า ผลลัพธ์กาแฟที่ได้จากการบด เราจะได้กาแฟที่มีความสดใหม่อยู่เสมอ รวมถึงเรื่องของความแม่นยำที่มากและตรงขึ้น แล้วมันมีอะไรอีก

เพื่อไปคุยกันเพิ่มเติม ในวันนี้เราจะพาคุณมาทำความรู้จักเทคนิคนี้กันให้มากขึ้น เผื่อว่าคุณจะนำไปปรับใช้กับการสกัดกาแฟของคุณเอง และทำให้ได้กาแฟที่ยอดเยี่ยม เพียงแค่ปรับปรุงวิธีการเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
การบดกาแฟ แบบ single-dose
โดยปกติ หากเราเดินเข้าไปในร้านกาแฟ ไม่ได้จำกัดแค่ในบ้านเราเท่านั้น แต่เป็นร้านกาแฟทั่วโลก เราจะสังเกตเห็นบาริสต้า จะทำการเติมเมล็ดกาแฟลงโถบดอยู่เสมอ (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเครื่องบดกาแฟที่ใช้บดเอสเพรสโซ่โดยเฉพาะ) แน่นอนว่าสิ่งนี้ค่อนข้างที่จะช่วยร้านกาแฟและบาริสต้า ในเรื่องของเวิร์คโฟลว์ให้มีความเหมาะสม และเพิ่มความรวดเร็วในงาน การให้บริการมากยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่ต้องมานั่งเติมกาแฟ หรือชั่งตวงกาแฟให้เสียเวลาอย่างต่อเนื่อง
ในทางกลับกัน การบดกาแฟแบบ single-dose มีความไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง กาแฟจะค่อยๆ ถูกนำออกมาจากถุง จากนั้นจะทำการชั่งตวงในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อบาริสต้าต้องการชงเครื่องดื่ม จะทำการใส่กาแฟที่ชั่งตวงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วลงในโถบด และทำการบดกาแฟให้ละเอียด
ถึงแม้ทุกวันนี้ เราจะเห็นวิธีการบดกาแฟแบบนี้ักันอย่างชินตาแล้ว โดยเฉพาะสายสเปเชียลตี้ แต่เทคนิคการบดกาแฟแบบนี้ เชื่อว่าได้รับความนิยมมาจากผู้เข้าแข่งขันชิงแชมป์กาแฟ ได้นำเครื่องบดกาแฟมาเพื่อบดกาแฟแบบ single-dose ในการประกวด
มาว่ากันด้วยเรื่องของเครื่องบดกาแฟ เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose ปัจจุบันก็มีให้เราได้เลือกหาซื้อและหามาเป็นเจ้าของอยู่มากมาย และมันก็ได้ตั้งอยู่ในร้านกาแฟทั่วทุกมุมโลก หนึ่งในเครื่องบดกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือเครื่องบด Mahlkönig EK43
การบดกาแฟแบบ single-dose เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการเปิดตัวเครื่องบดกาแฟ EK43 ที่ว่านี้ และก็ไม่ใช่แค่นั้น จากที่เราได้เห็นกันในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ผู้ผลิตรายอื่นๆ เริ่มที่จะมีการออกผลิตภัณฑ์เครื่องบดของตนเองออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ก่อนที่การบดกาแฟ single-dose จะได้รับความนิยมมากถึงขนาดนี้ ร้านกาแฟทั่วไปส่วนใหญ่ มีการใช้เครื่องบดกาแฟแบบเอสเพรสโซ่เพียงเท่านั้น เครื่องบดกาแฟเหล่านี้ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ปรับเบอร์บดได้ละเอียดอย่างในทุกวันนี้ เป็นเพียงการปรับเบอร์บดได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข้อดีของเครื่องบดเอสเพรสโซ่ก็อย่างที่ได้กล่าวไป เนื่องจากในร้านกาแฟทั่วโลก เครื่องดื่มที่ถูกสั่งบ่อย มักจะเป็นเครื่องดื่มที่มีเอสเพรสโซ่เป็นฐาน หรือแม้แต่เอสเพรสโซ่ช็อตเอง เรียกได้ว่ามีอัตราการสั่งมากกว่ากาแฟฟิลเตอร์อย่างแน่นอน บาริสต้าต้องบดกาแฟ เพื่อทำเป็นเอสเพรสโซ่มากกว่า 1 กิโลกรัมในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น เครื่องบดแบบเก่าทำให้สามารถเติมกาแฟลงในโถบดได้ง่ายกว่า ทำให้การทำงานโฟลว์มากกว่าหลายเท่าตัว อาจจะไม่ต้องกังวลในเรื่องของความสดใหม่ของกาแฟมากนัก ซึ่งสิ่งนี้เองเป็นข้อจำกัดที่การบดกาแฟแบบ single-dose ทำให้ไม่ได้
แต่ในทางกลับกัน เมนูกาแฟฟิลเตอร์ ไม่ใช่เมนูกาแฟที่ได้รับการสั่งบ่อยอย่างเมนูเอสเพรสโซ่ การบดกาแฟแบบ single-dose จึงเรียกได้ว่าเหมาะสมและมีประโยชน์มากกว่า เรียกได้ว่ามีความยืดหยุ่นมากกว่ามากเลยทีเดียว ในทางกลับกัน หากบาริสต้าใช้วิธีการเดียวกันนี้กับการชงกาแฟฟิลเตอร์ โดยใส่กาแฟลงในโถบด แล้วจะใช้ค่อยบดมาใช้งาน แบบนี้กาแฟอาจจะไม่สดใหม่เท่าไหร่นัก อย่างที่บอกไปเนื่องจากว่าการสั่งกาแฟฟิลเตอร์ ไม่ได้เป็นที่นิยม เหมือนกับการสั่งเครื่องดื่มที่มีเอสเพรสโซ่เป็นฐาน
ในปัจจุบันนี้เอง เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose ในร้านกาแฟทั่วไปมีความพร้อมใช้งานมากยิ่งขึ้น ทำให้ร้านกาแฟสามารถขยายเมนู และมีแกนนำเสนอเครื่องดื่มใหม่ได้มากมาย ส่วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องดื่มที่เป็นรูปแบบกาแฟฟิลเตอร์

Single-dose สำหรับเอสเพรสโซและกาแฟฟิลเตอร์
ในร้านกาแฟทั่วไปส่วนใหญ่นั้น การบดกาแฟแบบ single-dose มักจะใช้สำหรับการเตรียมกาแฟแบบฟิลเตอร์ มากกว่าการเตรียมเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ และหากเราลองมาคิดโดยทั่วไป หากทางร้านค้าต้องการที่จะนำเสนอกาแฟที่มีเอสเพรสโซ่เป็นฐาน ก็มักจะนำเสนอออกมาไม่กี่รูปแบบ แต่กลับกันหากเป็นกาแฟฟิลเตอร์ มันมีมากมายหลากหลายกว่านั้นเยอะเลยทีเดียว และตัวเลือกเหล่านี้จากผู้บริโภค มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เป็นประจำ ทั้งในเรื่องของวิธีการในการชง รวมถึงเมล็ดกาเเฟที่หลากหลายที่ใช้ในร้าน
การชั่งตวงกาแฟทีละโดส และการใช้เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose สำหรับเมนูกาแฟฟิลเตอร์ นับว่ามีประโยชน์สำหรับร้านกาแฟ โดยจะทำให้ร้านกาแฟเพิ่มเมนูกาแฟฟิลเตอร์ และนำเสนอให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
กลับกันแล้ว หากเป็นการชงเครื่องดื่มที่มีเอสเพรสโซ่เป็นฐาน แต่กลับจะใช้การบดกาแฟแบบ single-dose มันจะทำให้ต้องใช้เวลานานมากยิ่งขึ้น ต่อการเสิร์ฟกาแฟ 1 แก้ว เนื่องจากเครื่องดื่มเอสเพรสโซ่ หรือในตระกูลนี้ มักจะเป็นเครื่องดื่มที่ถูกสั่งอยู่เสมอในร้าน และมากกว่าการสั่งกาแฟฟิลเตอร์แน่นอน หากบาริสต้ามัวมานั่งบดกาแฟทีละแก้ว เวิร์คโฟลว์ของการทำงานจะหายไป ร้านกาแฟจะมีคนพลุกพล่าน และมันจะส่งผลกระทบต่อการทำงานอย่างแน่นอน
แต่แม้จะเป็นการบดกาแฟสำหนับเอสเพรสโซ่ก็ตาม การบดกาแฟแบบ single-dose ก็ยังคงมีประโยชน์มากอยู่เหมือนกัน โดยปกติทั่วไปแล้ว การที่บดกาแฟจากในโถบด มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้กาแฟติดอยู่ในเครื่องบด การบดออกมาได้ทั้งหมด อาจจะทำได้ค่อนข้างยาก และหากยังคงบดกาแฟต่อไป ดีไม่ดีอาจเกิดปัญหาการอุดตัน หรือมีกาแฟเก่าค้างอยู่ในเครื่องบดด้วย
การทำความสะอาดเครื่องบดกาแฟทุกครั้ง ก็อาจจะช่วยในเรื่องนี้ได้บ้าง แต่โดยธรรมชาติแล้ว มันก็ทำให้การทำงานของบาริสต้านั้นช้าลงไปด้วย แต่หากบดกาแฟดื่มเองที่บ้าน การบดเอสเพรสโซ่ โดยเป็นการบดกาแฟแบบ single-dose ก็อาจเป็นวิธีการที่ดี ที่จะได้กาแฟที่สดใหม่ เนื่องจากเราน้ำกาแฟออกมาจากถุงทันที ไม่ได้ใส่ไว้ในโถบดกาแฟแต่แรก
ประโยชน์ของการบดกาแฟแบบ single-dose
อย่างที่กล่าวเอาไว้แล้วว่า ข้อดีที่เห็นได้อย่างเด่นชัด ของการบดกาแฟแบบ single-dose นั่นก็คือ การยังคงรักษาคุณภาพ และความสดใหม่ของกาแฟออกมาได้อย่างเต็มที่นั่นเอง และยิ่งในปัจจุบัน ไม่ว่าจะใครก็ตาม บาริสต้าผู้ชงกาแฟเอง ผู้บริโภคที่พิถีพิถันมากขึ้น ทั้งหมดล้วนแต่ใส่ใจในเรื่องของคุณภาพกาแฟมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ การมีเครื่องมือที่ตอบสนองความต้องการของผู้คนจึงเป็นสิ่งสำคัญ และต้องไม่ลืมเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่สุดด้วย คือเรื่องของความสม่ำเสมอ
เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose ตอบโจทย์ในเรื่องเหล่านี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ เครื่องบดกาแฟ ที่ถูกออกแบบมาให้บดกาแฟแบบ single-dose โดยเฉพาะ ข้อดีที่สำคัญอีกอย่างก็คือ มันจะไปเป็นการลดปริมาณของกาแฟเก่า (ที่อาจมีอยู่ไม่มากก็น้อย) ที่ยังคงหลงเหลือจากการบดกาแฟครั้งที่แล้วๆ ให้น้อยที่สุดได้ด้วย
นอกจากนี้แล้ว การบดกาแฟแบบ single-dose ยังมีข้อดี คือสามารถที่จะทำให้ทั้งบาริสต้าและผู้บริโภคกาแฟเอง มีโอกาสที่จะได้ทดลองกาแฟได้มากมาย และหลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดากาแฟพิเศษ กับร้านกาแฟเฉพาะทางทั้งหลาย การมีเครื่องบดแบบนี้ กับกาแฟมากมายหลากหลายตัว มันทำให้การทดลอง และการทำงานในแง่นี้ง่ายขึ้น
นอกเหนือจากการมองในเรื่องของคุณภาพแล้ว เรื่องที่ผู้บริโภคและบาริสต้าให้ความสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ยังเป็นเรื่องของการพยายามลดปริมาณการสูญเสียกาแฟให้ได้มากที่สุด ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันมากมายสำหรับใครหลายคน แต่การที่สูญเสียกาแฟไปน้อยที่สุด จนถึงไม่สูญเสียเลน สิ่งนี้เป็นประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็นการใส่ใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือแม่แต่กาแฟโดยเฉพาะกาแฟพิเศษนั้น มีราคาที่สูง หรือแม้แต่การที่จะต้องมาทำความสะอาดกาแฟเหล่านี้อยู่ตลอด ทำให้สูญเสียเวิร์คโฟลว์ไป จะอย่างไรก็ตาม มันช่วยลดการสูญเสียกาแฟได้ไม่มากก็น้อย
สำหรับร้านกาแฟเฉพาะทาง รวมถึงร้านกาแฟที่ขายกาแฟพิเศษด้วย เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose สามารถที่จะช่วยให้เตรียมกาแฟหลายตัวได้ เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose ส่วนใหญ่ถูกออกแบบมาเพื่อชงกาแฟหลากหลายตัวอยู่แล้ว และยังปรับแต่งการบดได้อีกด้วย
เคล็ดลับสำหรับ single-dose
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับเครื่องบดกาแฟแบบ single-dose ถึงแม้ข้อดีที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ มันสามารถที่จะให้กาแฟที่สดใหม่ที่สุด หลงเหลือกาแฟในเครื่องได้น้อยที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงหลงเหลืออยู่ ไม่สามารถที่จะได้กาแฟที่สดใหม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นหากเราจะเลือกเครื่องบดกาแฟ single-dose ดีๆ สักตัว อยากให้มองแบบที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่าย จะเป็นการดีมากกว่า เมื่อมันถอดมาทำความสะอาดง่าย เราก็จะทำความสะอาดได้บ่อยขึ้น และมันตามมาซึ่งการได้กาแฟที่สดใหม่มากขึ้น
การทำความสะอาด และได้รับการบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม สามารถที่จะทำให้เครื่องบดกาแฟของเราทำงานได้ดีอยู่เสมอ การที่เรากำจัดเศษกาแฟและน้ำมันที่เกาะเฟืองบดของเราเป็นประจำ ก็ยังช่วยให้เราแน่ใจได้ว่า เราได้กาแฟที่สดใหม่

ในภาคส่วนกาแฟพิเศษ การบดกาแฟโดยใช้เครื่องบดกาแฟแบบ single-dose เรียกได้ว่ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ทั้งบาริสต้ามืออาชีพในร้านกาแฟเฉพาะทาง รวมถึงคนที่ดื่มกาแฟ และทำกาแฟดื่มเองที่บ้าน ก็อาจจะมี หรืออยากที่จะมีเครื่องบดกาแฟดีๆ ติดบ้านหรือติดร้านไว้สักเครื่องสองเครื่อง มันช่วยเพิ่มทางเลือกในการสกัดกาแฟของเราออกมาได้เป็นอย่างดี
ไม่ใช่แค่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่บรรดาผู้ผลิตอุปกรณ์กาแฟเอง เราก็ได้เห็นมีเครื่องบดกาแฟออกมามากมายหลากหลายในท้องตลาด เพื่อที่จจะตอบรับเทรนด์นี้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี มันจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคอย่างเรา ให้ได้มีโอกาสเลือกเครื่องบดกาแฟ single-dose ได้มากยิ่งขึ้นได้ ดังนั้นหากใครสนใจ single-dose ถือเป็นทางเลือกที่น่าซื้อมาติดโต๊ะกาแฟของคุณมากๆ เลยทีเดียว