โรบัสต้า ไทย กาแฟที่น่าสนใจซึ่งหลายคนมองข้าม

หากเราจะกล่าวถึงกาแฟไทย หลายคนน่าจะนึกถึงกาแฟอาราบิก้า ที่ถูกปลูกอยู่มากในภาคเหนือ ชื่อที่น่าจะคุ้นหูก็อย่างเช่นกาแฟดอยช้าง กาแฟปางขอน หรืออีกหลากหลายแหล่ง ที่อยู่ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ จังหวัดน่าน และจังหวัดอื่นใกล้เคียง ซึ่งเราก็ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่ากาแฟเหล่านี้นับว่าเป็นกาแฟที่ยอดเยี่ยม มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมักจะถูกผลักดันให้กลายเป็นกาแฟสเปเชียลตี้ แต่ก็ยังคงมีผู้บริโภคกาแฟอีกกลุ่มหนึ่ง ที่เปิดใจ และมีพื้นที่ให้กับกาแฟ โรบัสต้า ของไทยบ้าง ซึ่งปัจจุบันโรบัสต้าไทย ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน

Thai Robusta

หากเราจะกล่าวถึงกาแฟ โรบัสต้า หลายคนมักจะนึกถึงกาแฟที่มีบอดี้หนัก รสชาติไม่ได้มีความละเอียดอ่อนเท่า หากเทียบกับกาแฟอาราบิก้า หลายครั้งโรบัสต้าถูกมองว่าเป็นกาแฟคุณภาพด้อย และไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ หลายคนจึงเลือกมองข้ามโรบัสต้าไป กาแฟโรบัสต้าเป็นแบบนั้นหรือไม่ วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักโรบัสต้าให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กาแฟโรบัสต้าไทยเรา ที่ถูกปลูกอยู่มากในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย มันมีข้อดีอะไร จุดเด่นและจุดด้อยของโรบัสต้า ความน่าสนใจของโรบัสต้า รวมถึงความท้าทาย ที่บรรดาเกษตรกรจะต้องเผชิญ หากต้องการที่จะปลูกโรบัสต้า

ภาพรวมของกาแฟโรบัสต้าไทย

กาแฟโรบัสต้านั้น เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์กาแฟ ที่ถูกปลูกอยู่มากในประเทศไทยของเรา ซึ่งส่วนใหญ่และจะมีการปลูกโรบัสต้า อยู่ที่บริเวณภาคใต้ และบริเวณภาคกลางตอนล่างของประเทศไทย สิ่งนี้ทำให้เราเห็นได้ชัดเจน มันมีความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว กับกาแฟอาราบิก้าที่ถูกปลูกในบริเวณภาคเหนือ บริเวณซึ่งมีอากาศเย็น และความชื้นค่อนข้างเหมาะสมต่อการเติบโตของอาราบิก้า กลับกันโดยสิ้นเชิง กาแฟโรบัสต้าจะค่อนข้างเจริญเติบโตได้ดี ในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น ซึ่งสภาพอากาศร้อนชื้น ถือว่าเป็นสภาพอากาศที่โดดเด่นในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย

กาแฟโรบัสต้า มีจุดเด่นที่สำคัญคือเรื่องของความเข้มข้น มีบอดี้ที่หนักแน่น รสชาติค่อนข้างจัดจ้าน มีปริมาณคาเฟอีนอยู่ในระดับที่สูงเอาเรื่อง ระดับความเป็นกรดที่อยู่ในกาแฟนั้นต่ำ เรียกได้ว่าตรงข้ามกับกาแฟอาราบิก้าทุกอย่าง หลายคนมองว่ารสชาติของโรบัสต้า ไม่ได้ซับซ้อนเท่ากับรสชาติของกาแฟอาราบิก้า ซึ่งหากมองในมุมของผู้ดื่มกาแฟ เราจะกล่าวแบบนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร และนี่เป็นจุดสำคัญ ที่ทำให้โรบัสต้าแตกต่างจากอาราบิก้า

แต่ในทางกลับกัน การที่มีระดับคาเฟอีนที่สูง ระดับความเป็นกรดที่ต่ำ และมีบอดี้ที่หนักแน่นนี่เอง ทำให้ตัวกาแฟโรบัสต้าเอง มีความทนทานค่อนข้างที่จะสูงกว่า หากเทียบกับกาแฟอาราบิก้าที่มีบอดี้ต่ำกว่า ระดับคาเฟอีนก็ต่ำกว่า และรสชาติไม่ได้เข้มข้นเท่า จึงทำให้ตัวเองมีความอ่อนไหว ต่อบรรดาโรคภัยต่างๆ และสภาพอากาศที่เลวร้ายมากกว่า อาราบิก้าไม่สามารถที่จะนำไปปลูกในบริเวณภาคใต้ได้ แต่ถึงจะทำได้ ก็คงจะได้ผลผลิตที่ไม่ดี และด้อยคุณภาพ กลับกันกาแฟโรบัสต้าทำแบบนั้นได้

การนำกาแฟโรบัสต้าไทยไปใช้งาน

ด้วยรสชาติที่เข้มข้น บอดี้ที่หนักแน่น ปริมาณความเป็นกรดที่ค่อนข้างต่ำ และปริมาณคาเฟอีนที่ค่อนข้างสูงของตัวกาแฟโรบัสต้าเอง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีมาก สำหรับการนำไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูป และนำไปผสม หรือนำไปเบลนด์กับกาแฟอาราบิก้า เพื่อวัตถุประสงค์ 2 อย่างด้วยกัน อย่างแรกในแง่ของผู้ผลิต การนำกาแฟทั้งสองสายพันธุ์มาผสมกัน มันสามารถที่จะลดต้นทุนกาแฟไปได้ในระดับนึงเลย และอีกแง่หนึ่ง ทางผู้ผลิตอาจจะต้องการสร้างบอดี้ที่หนักแน่น จึงดึงเอาตัวโรบัสต้า มาเพื่อให้เครื่องดื่มของตนนั้นมีปริมาณคาเฟอีนมากขึ้น และมีบอดี้ที่หนักแน่นขึ้นด้วยก็ได้

หากเราจะกล่าวกันแบบตามตรง อุตสาหกรรมกาแฟโรบัสต้าของไทยเรานั้น ค่อนข้างที่จะแตกต่างกับอุตสาหกรรมกาแฟอาราบิก้าอยู่พอสมควร ในอุตสาหกรรมกาแฟอาราบิก้านั้น เกษตรกรส่วนใหญ่ หรือผู้ผลิตส่วนใหญ่ที่ทำการปลูก และผลิตอาราบิก้า ส่วนมากแล้วจะเป็นเกษตรกรกลุ่มเล็ก และเกษตรกรรายย่อย แต่กลับกันหากเป็นอุตสาหกรรมโรบัสต้า มักจะถูกครอบงำโดยเกษตรกร ผู้ผลิต หรือบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งเหล่านี้สามารถที่จะเข้าถึงเทคโนโลยี และช่องทางการตลาดได้ดีกว่ากาแฟอาราบิก้ารายย่อยอยู่มากเลยทีเดียว

Green Bean Coffee

เรามักจะมีภาพจำ กับชุดความรู้อยู่ชุดนึง ว่ากาแฟโรบัสต้านั้น จะถูกทำไปเป็นกาแฟสำเร็จรูปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่เหมาะอย่างยิ่ง และไม่สามารถที่จะถูกผลักดันให้กลายเป็นกาแฟสเปเชียลตี้ได้ แต่ทุกวันนี้มันไม่ใช่แบบนั้นเสียทีเดียวแล้ว เนื่องจากบรรดาเกษตรกร หรือบรรดาผู้ผลิตรุ่นใหม่ เริ่มที่จะเห็นศักยภาพของกาแฟโรบัสต้าของตนเอง และเห็นช่องทางที่มากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้โรบัสต้า จึงค่อยๆ ถูกผลักดันมากยิ่งขึ้น ผู้ผลิตรุ่นใหม่ใส่ใจในรายละเอียดมากขึ้นเล็กน้อย พยายามที่จะนำตัวโรบัสต้า มาทำการโปรเซส ซึ่งเป็นวิธีการที่มีการควบคุม ดังนั้นคุณภาพของโรบัสต้า จึงดีมากยิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตได้มากยิ่งขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าโรบัสต้าของไทยเรา จะยังไม่สามารถผลักดันเป็นกาแฟโรบัสต้าสเปเชียลตี้ได้เสียทีเดียว แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง

ตรงนี้ค่อนข้างน่าสนใจ สำหรับคนที่ยังไม่เคย หรืออาจจะไม่ได้เปิดใจให้กับกาแฟโรบัสต้ามากนัก อยากให้ลองเปิดใจให้กับมันดู มันค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าสนใจ และเป็นสิ่งที่พิเศษมากอยู่เหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้มีรสเปรี้ยวในความเป็นกรด มีกลิ่นของดอกไม้ หรือกลิ่นของส้มเหมือนกับกาแฟไทยหลายตัว ที่เป็นอาราบิก้าก็ตาม แต่โรบัสต้าเองก็มีเสน่ห์ และมีเอกลักษณ์ในแบบของตนเองอยู่ด้วย ดังนั้นอยากให้ลอง และเปิดใจกับโรบัสต้าไทยดู

ความท้าทายที่บรรดาเกษตรกรต้องเผชิญกับการปลูกกาแฟโรบัสต้าไทย

แต่ถึงแบบนั้น กาแฟโรบัสต้าของไทยเรานี่เอง ก็จำเป็นที่จะต้องเผชิญกับความท้าทายด้วยกันหลากหลายประการ เช่นเดียวกับที่กาแฟอาราบิก้าของเราจะต้องเผชิญ ประการแรก คือความท้าทายในเรื่องของการแข่งขันจากประเทศผู้ผลิตโรบัสต้าอื่นๆ ถึงแม้ว่าโรบัสต้าของไทยเรา ถึงจะมีการปลูกอยู่ด้วยกันไม่มากมายนัก แต่ก็ยังคงมีการนำมาใช้งานอยู่ แต่ก็อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ส่วนใหญ่แล้วยังไม่ได้ถูกผลักดัน ให้เข้ามามีบทบาท ในตลาดกาแฟสเปเชียลตี้มากนัก และยิ่งแล้วใหญ่ หากไปเทียบกับประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่อื่นๆ อย่างประเทศเวียดนาม ที่มีอัตราการผลิตกาแฟโรบัสต้า ติดอันดับโลกกันเลยทีเดียว

ความท้าทายต่อไป คือในเรื่องของราคากาแฟในตลาดโลกที่มีความผันผวนสูง หากจะกล่าวถึงกาแฟที่มีการผันผวนในราคาสูง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นกาแฟอาราบิก้า แต่โรบัสต้าก็ไม่รอดเช่นเดียวกัน ยังคงมีอัตราการผันผวนในราคาที่สูงด้วย ถึงแม้หากเทียบกับตัวอาราบิก้า จะเป็นกาแฟที่มีราคาถูกกว่ามากก็ตาม สาเหตุก็มาจากการปลูกกาแฟที่ยากขึ้น การที่จะต้องใช้ทรัพยากรในการปลูกมากยิ่งขึ้น รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นด้วย

ต่อไปคือเรื่องของการเข้าถึงเทคโนโลยี และการเข้าถึงช่องทางการตลาด โรบัสต้าของไทยเรา ส่วนมากกว่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ จะปลูกเพื่อนำไปขายให้กับบรรดาธุรกิจ หรือแบรนด์กาแฟสำเร็จรูปใหญ่ๆ ด้วยเหตุนี้ช่องทางการตลาดจึงค่อนข้างแคบ หากใครมองว่ากาแฟอาราบิก้า ที่เป็นกาแฟไทย มีช่องทางการขาย หรือช่องทางในการตลาดที่น้อยแล้ว หากเทียบกับโรบัสต้าของเรา ก็ยังคงมากอยู่ เพราะกาแฟโรบัสต้ามีช่องทางการตลาดน้อยกว่าหลายเท่า

และก็เช่นเดียวกับกาแฟอาราบิก้าอีกเช่นกัน ส่วนหนึ่งทางภาครัฐและทางภาคเอกชน ก็ยังคงได้มีการสนับสนุน และส่งเสริมในเรื่องนี้อยู่บ้าง บรรดาผู้ผลิต ที่เป็นผู้ผลิตรุ่นใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นภาคเอกชนในการผลิตกาแฟ ได้มีการคัดเลือก มีการพัฒนาในเรื่องของการโปรเซส และการคั่วกาแฟที่ดีมากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ช่วยส่งเสริม และเพิ่มมูลค่าของโรบัสต้าไทยได้มากเลยทีเดียว อีกทั้งในปัจจุบัน ถึงแม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆ ก็ตาม แต่ก็ได้มีร้านกาแฟบางร้าน นำโรบัสต้าไปใช้งาน และพยายามที่จะนำเสนอกาแฟโรบัสต้าออกมา ให้คนไทยเราได้สัมผัสมากยิ่งขึ้น หรือก็คือการพยายามเปลี่ยนภาพลักษณ์ของกาแฟโรบัสต้าที่แต่เดิม เราเคยรับรู้ไป

Robusta Specialty

โดยรวมแล้ว ก็ยังคงถือว่ากาแฟโรบัสต้าของไทยเรานั้น เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง ในอุตสาหกรรมกาแฟไทยเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติของกาแฟที่มีความเข้มข้นสูง ปริมาณคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟสูง และระดับความเป็นกรดที่ต่ำ ด้วยเหตุเหล่านี้เอง จึงเป็นที่นิยมชมชอบ ของผู้ที่ชอบดื่มกาแฟแบบบอดี้เข้มข้น และผู้ที่หลงรักคาเฟอีนแบบเต็มที่ แน่นอนว่านิยมไปทำเป็นกาแฟสำเร็จรูปด้วย

ปัจจุบันความต้องการในตลาด ก็เริ่มที่จะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น ถึงจะเป็นอัตราที่เติบโตช้ากว่ากาแฟอาราบิก้ามากก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นเราก็ได้เห็นพัฒนาการบางอย่าง ที่ทำให้เราดูว่า อนาคตของกาแฟโรบัสต้าไทยเรา จะสวยงามและน่าสนใจกว่านี้มากเลยทีเดียว