ความนิยมของ กาแฟไทย  และความท้าทายที่ต้องเผชิญ

ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยของเราไม่ใช่เป็นเพียงประเทศผู้ผลิตกาแฟประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่แห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ กาแฟไทย เองยังเป็นที่จับตามองเป็นอย่างมากของเวทีโลก คนไทยเราในทุกภาคส่วนการผลิตกาแฟ เรียกได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านกาแฟเลยก็ว่าได้ และอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟไทยก็ยิ่งมีมากขึ้น และมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย

ย้อนกลับไปในปี 2002 หรือพ.ศ. 2545 ประเทศไทยเราผลิตกาแฟอาราบิก้าได้เพียงแค่ 500 ตันเท่านั้น แต่ในทุกวันนี้ เราสามารถที่จะผลิตกาแฟได้แทบจะเทียบเท่ากับในปานามา ในปี 2013 Good Quality Coffee ก็ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในประเทศไทย ซึ่งในปัจจุบันได้กลายมาเป็นสมาคมกาแฟพิเศษแห่งประเทศไทย Specialty Coffee Association of Thailand (SCATH) มีการประกวดและการแข่งขันเป็นของตัวเอง และหากจะกล่าวถึงร้านร้านกาแฟในประเทศไทย เรามีร้านกาแฟแทบจะทุกรูปแบบ นอกจากนี้ยังมีโรงคั่วกาแฟกระจัดกระจายอยู่ทั่วประเทศไทยเป็นจำนวนมากด้วย

Thai Coffee Anaerobic

โอกาสที่ไทยจะเติบโตขึ้นอีกในอนาคตก็มีอีกมาก จากแนวโน้มที่เราเห็นในปัจจุบันที่ค่อนข้างดี คำถามก็คือ เหตุใด กาแฟไทย จึงเติบโตได้มากถึงขนาดนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดากาแฟพิเศษหรือสเปเชียลตี้ โดยเฉพาะในช่วง 5-10 ปี และความท้าทายใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของวงการกาแฟไทยนั้นมีอะไรบ้าง เราจะมาชวนคุณคุยกันในวันนี้

เหตุผลที่กาแฟพิเศษของไทยได้รับความนิยม

การที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหันมาให้ความสนใจ กาแฟไทย นับว่าไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มีเหตุผลอยู่มากมายในเรื่องนี้ และวันนี้เราจะมาขอนำเสนอ 5 เหตุผล หรือแง่มุมที่ทำให้กาแฟไทยของเรา โดยเฉพาะกาแฟพิเศษนั้นเฟื่องฟูมาจนกระทั่งปัจจุบัน

ผู้บริโภค

ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทุกภาคส่วนหรือทุกจังหวัดในประเทศไทย แต่ก็ต้องยอมรับว่าบ้านเรามีแหล่งเพาะปลูกกาแฟ โดยเฉพาะกาแฟพิเศษที่เป็นท้องถิ่นจำนวนมากเลยทีเดียว ทั้งโรงคั่วกาแฟและกาแฟ ต่างมีความเชื่อมโยงกับแหล่งเพาะปลูกกาแฟเหล่านี้ด้วย เรามีการโพรเซสกาแฟของตัวเอง เรามี Q-Grader เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในปัจจุบัน และที่สำคัญ เรามีสมาคมกาแฟพิเศษเป็นของตัวเอง ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

แน่นอนว่าผู้บริโภค เป็นส่วนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่ทำให้วงการกาแฟพิเศษของไทยนั้นเติบโตมากยิ่งขึ้น ผู้บริโภคกับความต้องการที่มากยิ่งขึ้นนี้ ผลักดันให้ผู้ผลิตสามารถที่จะเติบโตมากยิ่งขึ้นได้ไปอีก มีการให้ความสนใจในการปรับปรุงคุณภาพของกาแฟ และปรับปรุงวิธีการทำฟาร์มให้มากยิ่งขึ้น ทุกวันนี้เราอาจจะมีโอกาสได้เห็นกาแฟไทย ที่มีคะแนนการคัปปิ้งสูงขึ้นมาก และนี่เองบ่งบอกถึงคุณภาพของกาแฟไทยที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

เกษตรกรรุ่นใหม่และการนำนวัตกรรมมาใช้

ในประเทศผู้ผลิตบางประเทศ กาแฟเป็นพืชผลของเกษตรกรที่มีอายุมากแล้ว หรือคนรุ่นเก่าก่อน แต่ในประเทศประเทศไทยไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย อายุเฉลี่ยของผู้ผลิตกาแฟไทยนั้นจะอยู่ที่ช่วงประมาณ 20 ปลาย ๆ ถึงอายุประมาณ 40 ต้น ๆ โดยไม่ได้จำกัดว่าผู้ผลิตกาแฟจะอยู่ในภาคเหนือของประเทศไทยเพียงเท่านั้น หรือเป็นคนที่แต่เดิมทำไร่กาแฟเพียงเท่านั้น ผู้ผลิตกาแฟไทยมีความหลากหลาย บางคนเรียนจบสูง ๆ บางคนทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานคร ดังนั้นเรื่องของการผลิตกาแฟจึงเป็นเรื่องที่หลากหลายมาก

หากเราผลักดันดี ๆ กาแฟจะกลายเป็นพืชเศรษฐกิจของไทยที่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก และจะทำให้ภาคการเกษตรของไทยได้รับประโยชน์มากขึ้นไปอีก ทั้งผู้ผลิตและเกษตรกรมีการพัฒนาและปรับปรุงในเรื่องของกาแฟอย่างต่อเนื่อง ผู้ผลิตหลายรายมีร้านกาแฟเป็นของของตัวเอง หลายรายคั่วกาแฟเองด้วยซ้ำไป และผู้ผลิตกาแฟไทยยังคงเปิดรับวิธีการทดลองแบบใหม่อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำกาแฟพันธุ์ใหม่ ๆ มาปลูก การควบคุมในเรื่องของกระบวนการโพรเซส และอีกหลากหลายอย่าง

และการฝึกอบรมจากทางภาครัฐ

ในช่วงต้นทศวรรษ 80 รัฐบาลไทยได้เข้ามามีส่วนและเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมกาแฟมากยิ่งขึ้น หนึ่งเหตุผลที่รัฐบาลไทยกระโดดมาให้ความสนใจในเรื่องของกาแฟ คือการพยายามกำจัดยาเสพติดที่แพร่หลายในบริเวณดินแดนสามเหลี่ยมทองคำ (ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่บริเวณพรมแดนประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเมียนมาร์) แต่เดิมแล้วบริเวณนั้นนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียงในเรื่องของการค้าขายยาเสพติด ทางภาครัฐและทางราชวงศ์ไทย ร่วมกันเพื่อหาพืชทดแทนการปลูกฝิ่นบริเวณนั้น และกาแฟก็กลายเป็นตัวเลือกที่ดีและน่าสนใจ

Coffee Cupping Test

และแล้วก็เกิดผลสำเร็จ จากแต่เดิมแล้วพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่การขายสิ่งเสพติด ในที่สุดก็กลายมาเป็นการทำอุตสาหกรรมกาแฟแบบเต็มรูปแบบ ในปัจจุบันสิ่งนี้ถูกนำมายกเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟระหว่างประเทศ ภาครัฐไม่เพียงแค่พยายามส่งเสริมให้ปลูกอาราบิกก้ามากขึ้นเท่านั้น ยังมีการทำการวิจัย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยอีกด้วย

หากเรามีโอกาสได้ไปในแถบพื้นที่ปลูกกาแฟและเขตเกษตรกรรมกาแฟ เราอาจจะเคยเห็นสถานีวิจัยอยู่บริเวณใกล้ ๆ ซึ่งสถานีวิจัยเหล่านี้จะทำงานใกล้ชิดกับผู้ผลิต คอยแนะนำเทคนิคและแนวทางการทำฟาร์มที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้ และด้วยการเปิดรับนวัตกรรมและนำวิทยาศาสตร์มาใช้งาน ทั้งในแง่ของเทคนิคการโพรเซส ในเรื่องของการเพาะปลูก ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ประเทศไทยของเรากลายเป็นแหล่งปลูกกาแฟ ซึ่งกาแฟไทยก็เป็นที่ต้องการในตลาดโลก

ฟาร์มกาแฟที่มีขนาดเล็ก

ในประเทศประเทศไทยของเรานั้นมีฟาร์มกาแฟขนาดเล็กจำนวนมาก และเกษตรกรรายย่อยเหล่านี้เอง จะเป็นผู้นำดำเนินการในการโพรเซสกาแฟด้วยตนเองเสียส่วนใหญ่ แหล่งผลิตกาแฟหลายแหล่งนั้นอาจจะผลิตสารกาแฟได้เพียงไม่กี่ตันเท่านั้น แต่แหล่งผลิตกาแฟแต่ละแหล่ง หรือแต่ละฟาร์มนั้นก็อาจจะมีโรงสีขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ที่จะทำการโพรเซสกาแฟด้วยตัวเอง ตรงนี้เองมีความคล้ายกับในประเทศคอสตาริกา ที่ผู้ผลิตจะทำการโพรเซสกาแฟด้วยตัวเอง นั้นทำให้กาแฟที่ผลิตออกมาจากแต่ละฟาร์ม มีเอกลักษณ์ที่มีความเฉพาะตัว และทางโรงคั่วขนาดเล็กสามารถที่จะเลือกตามความต้องการของตนเองได้

การมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดี

โครงสร้างพื้นฐานที่ดีก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมกาแฟไทยเจริญเติบโต ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างโชคดีของบ้านเรา ผู้ซื้อสารกาแฟสามารถที่จะเดินทางมาจากต้นทาง และสามารถที่จะแวะชมกาแฟในภูมิภาคเดียวกัน แต่กลับมีความแตกต่างหลากหลายได้ในครั้งเดียว นั่นช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถที่จะเข้ามาลงทุนในฟาร์มกาแฟพิเศษ ที่มีจำนวนมากและมีความหลากหลายได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้แล้ว พื้นที่ปลูกกาแฟหลายแหล่งในประเทศไทย ยังอยู่ใกล้เคียงกับตลาดกาแฟด้วย อย่างในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย นั่นไม่เพียงแต่เป็นการลดต้นทุนการขนส่งกาแฟเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ทั้งผู้ซื้อ ผู้คั่วกาแฟ และบาริสต้าสามารถทำงานร่วมกับเกษตรกรได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นด้วย

ความท้าทายที่ไทยต้องเผชิญ

แม้ว่าอัตราการผลิตกาแฟโดยเฉพาะกาแฟพิเศษจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายในประเทศประเทศไทย แต่ก็เหมือนเหมือนกับอีกหลากหลายประเทศ ประเทศของเรายังคงมีความท้าทายที่จะต้องเผชิญอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน โดยความท้าทายเหล่านี้ได้แก่

ตลาดท้องถิ่นที่มีการแข่งขันสูง

การแข่งขันภายในประเทศ ทำให้ราคากาแฟไทยโดยเฉลี่ยนั้น สูงกว่ากาแฟจากแหล่งอื่น หากเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำที่ใกล้เคีลงกัน กาแฟไทยนั้นมักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับกาแฟจากคอสตาริกาและปานามา หากเรากล่าวกันตามตรง ประเทศไทยของเราก็ยังเป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟพิเศษที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก แตกต่างจากประเทศอย่างคอสตาริกาหรือปานามาที่กล่าวไว้ข้างต้น

ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยกฎหมายการอนุรักษ์ป่าไม้ในประเทศ ที่มีการเขียนขึ้นมาเพื่อลดอัตราการตัดไม้ทำลายป่าที่รวดเร็วในประเทศเรา ทำให้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับฟาร์มกาแฟที่มีขนาดใหญ่ ที่จะใช้กระบวนการเก็บเกี่ยวโดยเครื่องจักรในประเทศไทย นั้นทำให้การเก็บเกี่ยวผลผลิตจำเป็นที่จะต้องจ้างเกษตรกรรายย่อย ต้นทุนการผลิตกาแฟของเราก็สูงขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่าหลายอย่างในประเทศจะเอื้อต่อการทำให้ต้นทุนกาแฟสูงมากยิ่งขึ้น แต่ในการซื้อกาแฟทุกแก้วในร้านกาแฟ ก็ยังมีการรับประกันได้ในระดับหนึ่งว่าจะสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับเกษตรกร

Geisha Cherries

อัตราภาษีนำเข้าที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก

สิ่งที่อาจเป็นอุปสรรคต่ออุตสาหกรรมกาแฟไทยอีกประการหนึ่ง คืออัตราภาษีนำเข้าที่สูง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่รัฐบาลเป็นคนกำหนด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คือประเทศไทยของเรานั้นมีอัตราภาษีนำเข้ากาแฟจากต่างประเทศ สูงที่สุดเป็นอันดับสองของโลกรองจากประเทศอินเดีย โดยอยู่ที่ 90 เปอร์เซ็นต์เมื่อโควต้าการนำเข้าไม่ครบ นโยบายกีดกันทางการค้านี้ เปรียบเสมือนดาบสองคมสำหรับกาแฟพิเศษในประเทศไทย มองในมุมหนึ่งก็เป็นเหมือนกันปกป้องเกษตรกร เพื่อให้สามารถทำราคากาแฟได้อย่างยั่งยืน และลดอัตราการแข่งขัน แต่ในทางกลับกันมันทำให้การเพิ่มคุณภาพของกาแฟช้าลงเนื่องจากไม่เกิดการแข่งขัน และยังทำให้ยากมากยิ่งขึ้นต่อการเข้าร่วมในตลาดต่างประเทศ

หากเราจะมองแบบสุดโต่ง อาจหมายความว่าผู้บริโภคกาแฟชาวไทยเรา ถูกบังคับให้ซื้อเฉพาะกาแฟพิเศษที่มาจากประเทศไทยของเราเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นการจำกัดการแลกเปลี่ยนข้อมูล แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และเปิดรับอะไรใหม่ใหม่ได้ ถึงแม้ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เป็นที่จับตาบนเวทีโลกในฐานะผู้ผลิตกาแฟ แต่การที่มีกำแพงภาษีมากั้นไว้นี้อาจทำให้ต่างชาติเข้ามามีความเกี่ยวข้องกับประเทศได้น้อยลง 

การวิจัยด้านกาแฟยังคงแคบอยู่

ก่อนหน้านี้เราได้มีการกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ถึงการลงทุนและการวิจัยกาแฟภายในประเทศ แม้ว่าสิ่งนี้จะมีจริงอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่ในอดีตการวิจัยกาแฟนั้น จะมุ่งเป้าเพียงแค่ไม่กี่เรื่อง หนึ่งในนั้นคือเรื่องการผลิตกาแฟที่มีการต้านทานโรคสนิม และกาแฟที่ให้ผลผลิตสูงสูง ยกตัวอย่างเช่นกาแฟ Catimor ซึ่งเป็นกาแฟพันธุ์หนึ่งที่ได้รับการตัดต่อทางพันธุกรรมให้มีความทนทานต่อโรคสนิม และให้มีผลผลิตที่อยู่ในปริมาณสูง สิ่งนี้เป็นผลกลอยได้จากแผนการวิจัยของประเทศไทยเรา

แต่ก็เป็นเรื่องโชคดี ที่ในปัจจุบันนั้นทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตกาแฟไทย ให้ความสนใจและอยากได้กาแฟที่มีคะแนนสูงและคุณภาพสูง ดังนั้นเราจะมีมีโอกาสได้เห็นการวิจัยเพื่อเพิ่มคุณภาพมากยิ่งขึ้น หลังจากที่การวิจัยหยุดอยู่เพียงแค่การเพิ่มปริมาณและการทำให้กาแฟต้านทานโรค

สิ่งที่น่าสนใจคือ พบว่าในช่วงประมาณสามปีที่ผ่านมา ฟาร์มกาแฟส่วนใหญ่โดยเฉพาะฟาร์มที่ทำการมา 10 ปีขึ้นไป มีการนำกาแฟพันธุ์อื่น ๆ อย่าง Typica, Bourbon, Caturra และ Catuai ใช้งาน นำมาปลูกผสมกับ Catimor ที่เป็นที่นิยมอยู่เดิม และหากมีการจัดการในเรื่องของการแปรรูปหรือการโพรเซสที่ถูกต้อง รสชาติดั้งเดิมและคุณภาพแบบ Catimor อาจจะหายไป และทำให้เราได้กาแฟที่น่าสนใจมากมากยิ่งขึ้น

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เรามีโอกาสได้เห็นกาแฟไทยที่ใช้กาแฟพันธุ์ใหม่ใหม่ ที่ได้รับความนิยมอย่าง Geisha, Java และ SL28 เริ่มมีการนำกาแฟเหล่านี้มาปลูกบริเวณภาคเหนือของบ้านเราแล้ว

มุมมองต่อกาแฟโรบัสต้า

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรามีโอกาสได้เห็นการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์กาแฟสดชนิดพิเศษมากมาย และนี่ก็นับว่าเป็นเรื่องดีของประเทศไทย ที่ผลิตกาแฟโรบัสต้าได้มากกว่ากาแฟอาราบิก้า

แต่เดิมนั้นการปลูกและการเก็บเกี่ยว รวมถึงการนำกาแฟโรบัสต้ามาทำทำการโพรเซสของไทยนั้นไม่ได้พิถีพิถันมากนัก หลังจากการเก็บเกี่ยวก็มักจะนำไปทำการโพรเซสแบบง่าย ๆ โดยจะนำไปตากบนพื้นคอนกรีตให้แห้ง และนำไปขายให้กับโรงงานผลิตกาแฟสำเร็จรูปหลายแห่งในประเทศไทย แต่ทุกวันนี้ ได้มีเกษตรกรปลูกโรบัสต้าบางรายในบริเวณภาคใต้ของประเทศไทย มีการทดลองใช้วิธีการโพรเซสหลากหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้น มีการนำไปทำ Natural, Honey และ Washed ให้เห็นอยู่มากมายมากมาย จนกระทั่งสมาคมกาแฟพิเศษแห่งประเทศไทยได้จัดการแข่งขันกาแฟโรบัสต้าขึ้น

หากจะมองในมุมหนึ่ง สิ่งที่จะเป็นการเปลี่ยนเกณฑ์ที่สำคัญของอุตสาหกรรมกาแฟไทย ที่อาจจะทำให้ทั่วโลกยอมรับได้ คือการทำโรบัสต้าสเปเชียลตี้ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่อาจช่วยให้เกษตรกรไทยมีการเจริญเติบโต และสามารถที่จะลงทุนเพิ่มเติมได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้โรงคั่วกาแฟ บรรดาร้านกาแฟ และผู้บริโภคกาแฟเปิดรับกาแฟที่มีความน่าสนใจ มากขึ้นได้

Thai Ancient Coffee Shop

โดยสรุปแล้ว ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอที่จะกลายเป็นหนึ่งในประเทศชั้นนำในการผลิตกาแฟในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ เรามีแหล่งปลูกกาแฟที่ยอดเยี่ยม เรามีทั้งอาราบิก้าและโรบาต้าซึ่งมีความน่าสนใจ ความท้าทายที่จะต้องเผชิญเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งที่เปรียบเสมือนบททดสอบของบรรดาผู้ผลิต แต่ไม่ว่าอย่างไรเชื่อว่าอนาคตของอุตสาหกรรมกาแฟไทย จะมีการเติบโตมากขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าทุกวันนี้จะมีการเติบโตในอัตราที่น่าสนใจแล้วก็ตาม